เคล็ดลับการเลือกทำ เทอร์มาจ และไฮฟู่

อังคาร ๒๗ สิงหาคม ๒๐๑๙ ๑๐:๑๓

ประธานวิชาการสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย

ในยุคสมัยนี้การยกกระชับผิวหน้าและผิวหนังบริเวณร่างกายในทุกส่วนสัดให้ดูอ่อนเยาว์เป็นเรื่องใกล้ตัว สำหรับในวงการแพทย์ผิวหนังสมัยใหม่ ความแพร่หลายไม่ได้หยุดเพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้น แต่ผู้ชายก็ให้ความสนใจในเรื่องเหล่านี้เหมือนกัน เทอร์มาจ (THERMAGE) เป็นหนึ่งในวิธีการกระชับผิวและรักษาผิวหนังที่หย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้พลังคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency) ทำให้เกิดความร้อนสู่ใต้ผิวหนัง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เทอร์มาจจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับ บริเวณที่มีไขมันเฉพาะจุด ได้ผลดีในบริเวณที่หย่อนคล้อยมาก ๆ กระชับหน้า ให้ผิวกระชับยืดหยุ่น เรียบเนียน ลดริ้วรอยบริเวณใบหน้า เหนียง แขน ขาและหน้าท้อง ส่วนไฮฟู่ อัลตราซาวด์ (HIFU ULTRASOUND) นั้นใช้หลักการพลังงานเสียง HIGH-INTENSITY FOCUS ULTRASOUND ให้เกิดความร้อนไปกระตุ้นคอลลาเจน เมื่อมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ จะทำให้ผิวหนังกระชับขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ไม่มีไขมันสะสม

โดยหลักการ จำง่าย ๆ ว่า เทอร์มาจ จะเห็นผลชัดเจนในเดือนที่ 3 ของการรักษา แต่ขึ้นอยู่กับสภาพของผิวด้วย ซึ่งจะเห็นผลนาน 1-2 ปี ส่วนไฮฟู่ อัลตราซาวด์ ต้องใช้เวลาประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี จึงจะเห็นผลในการรักษา โดยในระหว่าง 2 – 4 เดือนแรกจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยทั้งสองวิธีเป็นพังผืดของหนังแท้ ให้สร้างใหม่โดยใช้เครื่องมือใหม่ในการแพทย์ ให้พลังงานความร้อนลงสู่หนังกำพร้าลงไปข้างล่างผ่านเส้นใยผิวหนัง ไปกระตุ้นเพื่อสร้างคอลลาเจนใหม่ขึ้นมา

ทั้งนี้โดยหลักการสามารถเลือกทำทั้งสองวิธีได้ในเวลาเดียวกัน โดยแต่ละวิธีก็จะมีผลข้างเคียง การไหม้ของผิวหนังแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ ระดับที่1 คือจะเห็นริ้วรอยแดง ๆ ที่หนังกำพร้า ระดับที่ 2 จะเห็นตุ่มน้ำ ถ้าแตกจะเห็นน้ำเหลืองไหลออกมา ระดับลึกลงไปถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทั้งนี้ในระดับ 2 หรือ ในระดับที่ 3 มีโอกาสเกิดแผลเป็นได้ ส่วนในระดับที่ 1 อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของสีผิวในระยะหนึ่งเท่านั้น

อย่างไรก็ตามในการรักษาโรคทุกโรค โดยเฉพาะทางด้านความสวยความงาม ผลของการรักษาจะดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก คือ 1. ความรู้ความสามารถของแพทย์ 2. ประสิทธิภาพของเครื่องมือและยารักษา และ 3.ตัวผู้ที่มารับการรักษา ต้องปฏิบัติตัวตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ต้องใช้ดุลยพินิจของตนเอง ตรวจสอบประวัติแพทย์ที่จะมารักษา ว่าเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้จริงหรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันในแพทยสภาหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ก็มีข้อมูลให้เลือกตัดสินใจโดยดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.dst.or.th ได้ถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๓ เริ่มแล้ว MONEY EXPO 2024 เชียงใหม่ ระดมแคมเปญแรง ส่งตรงถึงลูกค้าภาคเหนือ กู้บ้าน 0% 3 เดือน - เงินฝาก Step Up ดอกเบี้ย
๑๗:๓๒ ถอดรหัสความสำเร็จ JOURNAL พลิกเกมน้ำหอมไทย ปั้นแบรนด์ทะลุร้อยล้านภายใน 7 ปี โดย ฟ้า-ธนัญญา สุธีรชัย
๑๗:๕๓ กทม. บูรณาการความร่วมมือเตรียมพร้อมมาตรการดูแลความปลอดภัยเทศกาลลอยกระทง ปี 67
๑๗:๔๑ เรียนรู้จากเวทีจริง! เด็กสื่อสารการแสดง SPU สัมผัสการทำงานละครเวทีผ่าน ฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล
๑๖:๓๑ วว. จัดกิจกรรม โครงการปลูกต้นไม้ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม
๑๖:๒๒ Awakening Bangkok 2024 กลับมาปลุกไฟย่าน เติมไฟคน ฉายแสงให้เขตพระนครสว่างไสวด้วยไฟสร้างสรรค์ 8-17 พฤศจิกายน
๑๖:๒๔ ไทเชฟ แนะนำ ผงปรุงรสคั่วกลิ้ง ต้อนรับวันลอยกระทง
๑๖:๔๖ ประเสริฐ สั่งเร่งขยายผลแอปพลิเคชัน Smart PDPA มั่นใจลดปัญหาข้อมูลรั่วไหล
๑๖:๔๓ อิมแพ็ค เมืองทองธานี คว้ารางวัล 2024 Thailand Headlines Person Of the Year Award สาขา Socioeconomics Award
๑๖:๔๒ กรมวิชาการเกษตร ผนึก จังหวัดจันทบุรี จัดประชุมผู้ประกอบการวางแผนเชิงรุก เตรียมความพร้อมฤดูกาลส่งออกลำไยภาคตะวันออกไปจีน