นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จุดเด่นของโรงแรมอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ นอกจากจะอยู่ในทำเลใจกลางเยาวราช ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสกับบรรยากาศที่คึกคักตามวิถีชีวิตที่แท้จริงของชุมชนแล้ว ลูกค้าของโรงแรมยังสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่เก่าแก่และน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นวัด ศาลเจ้า หอศิลป์และพิพิธภัณฑ์ รวมถึงคาเฟ่ร่วมสมัยที่แทรกตัวอยู่ในตึกเก่าของเยาวราช และร้านอาหารแนวสตรีทฟู้ดส์ริมทางมากมาย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากจะเดินทางมาสัมผัสด้วยตัวเอง โดยที่ตั้งของโรงแรมอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์นี้ ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีวัดมังกร ที่เชื่อมต่อพื้นที่เยาวราชกับย่านอื่นๆ ของเมืองเพียง 100 เมตรเท่านั้น
"การลงทุนในโรงแรม อาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ เป็นการเน้นย้ำความมุ่งมั่นของเรา ที่จะมอบประสบการณ์ที่หลากหลายให้กับลูกค้า โดยเฉพาะนักเดินทางกลุ่มมิลเลนเนียลที่นิยมการใช้ชีวิตแบบสัมผัสกับชุมชน ในราคาที่เข้าถึงได้ รวมทั้งยังตอกย้ำแนวคิดในการสร้างความยั่งยืนให้กับการดำเนินงานธุรกิจของกลุ่มดุสิตธานี ผ่านการกระจายการลงทุนที่จะสร้างโอกาสและศักยภาพในการเติบโตอย่างมีคุณภาพในอนาคต ซึ่งเรามั่นใจว่า โรงแรมภายใต้แบรนด์ "อาศัย" แห่งแรกนี้ จะเป็นอีกหนึ่งโครงการลงทุนที่ตอบแนวคิดหลักในการสร้างความยั่งยืนให้กับกลุ่มดุสิตธานี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มดุสิตธานี กล่าว
ทั้งนี้ โรงแรมอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ จะถูกพัฒนาอย่างสอดคล้องกับเสาหลักทั้งสี่ของแบรนด์ "อาศัย" ประกอบด้วย ความเอาใจใส่ในองค์ประกอบ(Thoughtful Essentials) ด้วยการออกแบบพื้นที่ใช้สอยด้วยความใส่ใจในรายละเอียด, การจัดสรรพื้นที่เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ (Common Areas) โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลางสำหรับแขกและลูกค้าในท้องที่, การยึดแนวคิดสถานที่คือแรงบันดาลใจ (Locally Inspired) เพื่อสร้างความเข้าถึงความเป็นท้องถิ่นอย่างแท้จริง และการเชื่อมต่อผู้คนจากวัฒนธรรมที่แตกต่าง (Connected Community)
โดยโรงแรมอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ จะมีห้องขนาดกะทัดรัดตั้งแต่ 18-22 ตารางเมตร จำนวน 224 ห้อง ซึ่งการออกแบบจะเน้นความร่วมสมัยระหว่างไทย-จีน โดยเน้นการใช้งานเพื่อความสะดวกสบายในระดับมาตรฐาน เช่น เตียงคุณภาพดีเยี่ยม และฝักบัวอาบน้ำแรงดันสูง ในขณะเดียวกัน พื้นที่ส่วนกลางจะเน้นการรวมพื้นที่ให้มีความกว้างเพื่อตอบสนองการทำงานที่สะดวกสบายและการทำกิจกรรมอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีบาร์สำหรับบริการเครื่องดื่ม และร้านอาหารแบบป๊อปอัพที่มีเมนูตามฤดูกาลที่ได้รับความร่วมมือจาก Paolo Vitaletti และ Jarrett Wrisley of Appia, Peppina และร้านอาหารSoul Food โดยจะใช้สมุนไพรและผักสดจากสวนออร์แกนิกมาเป็นวัตถุดิบ และเพื่อส่งเสริมการเกษตรแบบยั่งยืน โรงแรมยังได้ร่วมมือกับ Akha Ama ซึ่งเป็นองค์กรช่วยเหลือสังคมในการปลูกกาแฟในภาคเหนือของประเทศไทยเพื่อจัดหาเมล็ดอาราบิก้า 100% จากโครงการมาบริการให้กับลูกค้าของโรงแรมอีกด้วย
ด้านนายศิรเดช โทณวณิก กรรมการผู้จัดการ บริษัท ASAI Hotels กล่าวว่า โรงแรมอาศัย แต่ละแห่งได้รับการออกแบบอย่างใส่ใจ เพื่อสะท้อนโครงสร้างของพื้นที่ใกล้เคียงและเพื่อดึงดูดความสนใจและความคาดหวังของนักเดินทางและผู้ท่องเที่ยวที่นิยมแสวงหาการใช้ชีวิตแบบมีส่วนร่วมในชุมชนอย่างแท้จริง ซึ่งแน่นอนว่า โรงแรมอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ ซึ่งเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ "อาศัย" แห่งแรกจะสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ ด้วยสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดและทำเลที่ตั้งดีเยี่ยมใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินใหม่ ทำให้เชื่อว่า โรงแรมนี้เป็นที่รู้จักและจะอยู่ในใจของนักเดินทางกลุ่มมิลเลนเนียลที่รอเวลามาสัมผัสกับสีสันและความคึกคักของย่านเยาวราช
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ASAI Hotels กล่าวด้วยว่า นอกเหนือจากโรงแรมอาศัย กรุงเทพฯ ไชน่าทาวน์ แล้ว แบรนด์ "อาศัย" ยังมีโรงแรมอีก 5 แห่งที่อยู่ในแผนดำเนินงานในระยะต่อไป ได้แก่ โรงแรมอาศัย จำนวน 3แห่งในเซบู ฟิลิปปินส์ อีก 1 แห่งในย่างกุ้ง เมียนมา ซึ่งอยู่ในเขตเมืองยานคินอันเก่าแก่และอีก 1 แห่งจะเป็นโรงแรมแห่งที่สองในกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ในเขตสาทร โดยคาดว่า จะทยอยเปิดให้บริการได้ตั้งแต่กลางปี 2563 เป็นต้นไป