ในการนี้ ปตท. ได้เตรียมแผนรองรับสถานการณ์อย่างเต็มที่ โดยบรรจุก๊าซเอ็นจีวีจัดเก็บไว้ใส่รถขนส่ง ก๊าซฯ เพื่อสำรองก๊าซฯ ไว้ก่อนการหยุดผลิต และวางแผนจัดสรรก๊าซฯ จากพื้นที่ส่วนกลาง ขนส่งมายังสถานีบริการเอ็นจีวีในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมถึงจัดเตรียมระบบขนส่งและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นก๊าซเอ็นจีวี ด้วยระบบ แอลเอ็นจี เอสอาร์เอ็ม (LNG SRM: Storage and Regasification Mobile Package Unit) ณ สถานีก๊าซธรรมชาติหลักน้ำพอง ซึ่งระบบดังกล่าวเคยประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ในการบริหารจัดการก๊าซฯ ช่วงการซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ เจดีเอ เอ18 ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยแผนการทั้งหมดที่ ปตท. เตรียมพร้อมไว้ คาดว่าจะทำให้สามารถจัดสรรก๊าซฯ เพื่อให้บริการทั้งสิ้น 100 ตันต่อวัน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 71 ของปริมาณการใช้ก๊าซฯ ในช่วงเวลาปกติ
"ปตท. ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบล่วงหน้าตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2562 ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ที่สถานีบริการNGV หนังสือแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้ง ปตท. จะเปิดศูนย์บริหารจัดการเอ็นจีวี ช่วงหยุดซ่อมบำรุงแหล่งผลิตสินภูฮ่อม ตั้งแต่วันที่ 6 - 20กันยายน 2562 โดยจะประสานงานกับผู้ผลิตฯ อย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อทุกภาคส่วนให้น้อยที่สุด และ ปตท. ใคร่ขอความร่วมมือผู้ใช้ก๊าซเอ็นจีวีในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน โปรดวางแผนการใช้ก๊าซเอ็นจีวีล่วงหน้า ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง PTT Contact Center โทร.1365 ตลอด 24 ชั่วโมง" นายศักดิ์เฉลิม กล่าวเสริมในตอนท้าย