บล.ฟินันเซีย ไซรัส ออกบทวิเคราะห์แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 6 บาท เนื่องจาก กำไรออกมาดีกว่าคาดและทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 43 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 30% จากไตรมาส 1/62 เพิ่มขึ้น 105% จากงวดเดียวกันปีก่อน จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาดเป็น 31.1% จาก 29.6% ในไตรมาส 1/62 และ 29.4% ในไตรมาส 2/61 เพราะ product mix ที่ดีและมี economy of scale จากเครื่องดื่มที่ขายดีทุกช่องทาง
ขณะที่กำไรครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 90% จากงวดเดียวกันปีก่อน คิดเป็น 53% ของกำไรทั้งปีที่คาด 143 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109% จากงวดเดียวกันปีก่อนและ แนวโน้ม ครึ่งปีหลังปี 62 ยังโตต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทจ่ายปันผล 0.10 บาทต่อหุ้น อัตราผลตอบแทน (yield) อยู่ที่ 2.2% ขึ้นเครื่อง XD 26 ส.ค.นี้
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) แนะนำซื้อหุ้น TACC ราคาเหมาะสม 5.75 บาท เนื่องจากกำไรดีกว่าคาด 8%, GPM ดีสุดในรอบ 2 ปี โดยรายได้อยู่ที่ 402 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14 % จากไตรมาส1/62, เพิ่มขึ้น 24% จากงวดเดียวกันปีก่อน และดีกว่าคาด 5.5% ตามจำนวนสาขาของ 7-Eleven และ All Cafe ที่เพิ่มขึ้น เมนู Non-coffee ใน All Cafe เพิ่มขึ้น รวมทั้งฤดูร้อนที่ค่อนข้างนานกว่าปกติกระตุ้นการบริโภคเครื่องดื่ม นอกจากนี้มีรายได้จากเครื่องดื่มตามฤดูกาลคือ เมล่อนลาเต้ ที่สร้างรายได้ช่วงปลายไตรมาส
สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 31.1% ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 29.9% และเพิ่มขึ้นจาก 29.6% ในไตรมาส 1/62 และ 29.4% ในไตรมาส 2/61 จากการปรับสูตรน้ำตาลน้อยทำให้ภาษีน้ำตาลลดลง และรายได้จากธุรกิจลิขสิทธิ์การ์ตูน ซึ่งมีกำไรสูงเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ไตรมาสนี้ไม่มีส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วม หลังทำการขายเงินลงทุนเสร็จสิ้น มีเพียงรายการขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุน 5.3 ลบ. ในงบเฉพาะกิจการ ไม่มีผลต่องบการเงินรวม มีตั้งสำรองประโยชน์พนักงานที่ 0.8 ล้านบาท กำไรปกติอยู่ที่ 43.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.8% จากไตรมาส 1/62, เพิ่มขึ้น 103.4% จากงวดเดียวกันปีก่อน และดีกว่าคาด 8.1%
อย่างไรก็ตาม กำไรปกติครึ่งปีแรกอยู่ที่ 77 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 55% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปีที่ 140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปกติแล้วผลประกอบการครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะมีไตรมาส 4 เป็นจุดสูงสุดของปี แต่ปีนี้คาดว่าจะพิเศษกว่าทุกปีเพราะมีรายได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์มาช่วยหนุนอีกแรง และไตรมาส 3 ปกติแล้วกำไรจะลดลงจากไตรมาสก่อนเพราะเป็นฤดูฝน แต่ปีนี้ไตรมาส3/62 อาจทรงตัว จากไตรมาส 2/62 เพราะปริมาณฝนตกน้อยกว่าทุกปี และเมนูใหม่ใน All Cafe เพิ่มขึ้น ประมาณการจึงมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก
ทั้งนี้ในไตรมาส 2/62 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดถึง 510 ล้านบาท หรือ 0.84 บาทต่อหุ้น ยังคงคาดหวังการ M&A ภายในปีหน้าเป็นอย่างช้า ซึ่งจะเป็น Upside ที่มีนัยสำคัญต่อ ราคาเป้าหมายปีหน้า ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการ และคงคำแนะนำ ซื้อ TACC เป็นหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่มเพียงบริษัทเดียวใน 4 บริษัทที่ทำการศึกษาจึงแนะนำให้ ซื้อ ราคาปัจจุบันเหลือ PER 2562 เพียง 19.9 เท่า และ 2563 ต่ำมากเพียง 14.5 เท่า