นายธวัชชัย ชีวานนท์ เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมผลักดันโครงการ National e-Payment ของภาครัฐ โดยเป็นธนาคารแห่งแรกที่ได้รับความไว้วางใจจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ :ซึ่งให้บริการรับชำระค่าปรับจราจรใบสั่งทุกประเภทจากทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2559 และได้ต่อยอดพัฒนาระบบ Police Ticket Management หรือ PTM หรือระบบจัดการใบสั่งออนไลน์ให้ครบวงจร โดยนำเทคโนโลยีมาเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งของสถานีตำรวจต่างๆ กับกรมการขนส่งทางบก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการบันทึกค่าปรับจราจรประเภทต่างๆ และช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสามารถดูรายงานค่าปรับจราจรประเภทต่างๆ ย้อนหลัง 90 วัน มีระบบออกใบเตือนอัตโนมัติในกรณีใบสั่งยังไม่มีการชำระค่าปรับ เรียกดูข้อมูลที่จำเป็นต่อการออกใบสั่งต่างๆ ตลอดจนสามารถบันทึกแต้มผู้กระทำความผิดตามกฎหมายจราจร
"สำหรับประชาชนที่ได้รับใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากสามารถชำระค่าใบสั่งที่สาขาของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ เครื่องเอทีเอ็ม แอปพลิเคชั่นกรุงไทย NEXTแล้ว ยังสามารถชำระผ่าน Banking Agent ของธนาคาร ได้แก่ CenPay ตู้บุญเติม และไปรษณีย์ไทย และเตรียมขยายช่องทางการชำระค่าใบสั่งผ่านเว็บไซต์ใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน (e-Ticket) ด้วยบัตรเดบิตและบัตรเครดิต รวมทั้งชำระใบสั่งต่างสถานีจากเดิมที่ชำระค่าปรับกับสถานีตำรวจที่ออกใบสั่งเท่านั้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารยังมีส่วนร่วมในการรณรงค์การขับขี่อย่างปลอดภัยอีกด้วย"