นายกวีศิลป์ ศิริมณีธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี.พี.อะไหล่ จำกัด กล่าวว่า "กว่า 38 ปี ที่บริษัทฯได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าร้านอะไหล่ อู่และศูนย์บริการรถยนต์ บริษัทประกัน กลุ่มฟลีท รวมถึงเจ้าของรถยนต์ทั่วไป หลายพันรายทั่วประเทศ เราไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาปรับปรุงองค์กร เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์จำหน่ายอะไหล่รถยนต์ชั้นนำครบวงจรที่เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งมั่นทำให้ได้ตามข้อกำหนดของลูกค้าและข้อกำหนดต่างๆที่องค์กรประยุกต์ใช้ เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า และพัฒนาปรับปรุงระบบบริหารคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ผ่านการปลูกฝังค่านิยมร่วมในองค์กรของพนักงานทุกระดับ จนทำให้ยอดขายเติบโตต่อเนื่องที่อัตราเฉลี่ยมากกว่า 20% ใน 7 ปีล่าสุด และมีอัตราเติบโต 38% ในปี 2561"
"ภูมิทัศน์ทางธุรกิจเปลี่ยนเร็วมากไม่เว้นแม้กระทั่งธุรกิจแบบดั้งเดิมอย่างธุรกิจอะไหล่รถยนต์ การปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางที่เลี่ยงไม่ได้ เราตัดสินใจนำระบบ ISO เข้ามาเพื่อสร้างมาตรฐานการทำงานให้เป็นระบบ มีคุณภาพในทุกกระบวนการ ตรวจสอบย้อนหลังได้ทุกขั้นตอน โดยเราเจาะจงเลือก SGS เป็น Certification Body เพราะมีความชำนาญในธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ และขึ้นชื่อเรื่องมาตรฐานการตรวจที่เข้มข้น" นายกวีศิลป์ กล่าวเสริม
นายกวีศิลป์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "นอกจากระบบการบริหารงานคุณภาพ ที่มุ่งเน้นด้านลูกค้าเป็นหลักแล้ว จี.พี.อะไหล่ ยังต่อยอดด้วยการนำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ ที่องค์กรชั้นนำต่างให้การยอมรับว่าเป็นหนึ่งในโมเดลการบริหารธุรกิจที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งมีเกณฑ์อยู่ 7 หมวด ได้แก่ 1.บทบาทของผู้บริหารในการนำองค์กร 2. การวางแผนการดำเนินธุรกิจ 3. การมุ่งเน้นลูกค้าและตลาด 4. การวัด วิเคราะห์ และการจัดการความรู้ 5. การบริหารทรัพยากรบุคคล 6. การจัดการกระบวนการ และ 7. ผลลัพธ์ทางธุรกิจ มาเป็นแนวทางหลักขององค์กรและผลักดันทำให้เราสามารถคว้ารางวัลสุดยอดเอสเอ็มอีแห่งชาติมาครองได้ โดย จี.พี.อะไหล่ ถือเป็นธุรกิจค้าปลีกค้าส่งอะไหล่รถยนต์รายแรกที่ได้รางวัลนี้"
การประกวดรางวัลสุดยอดเอสเอ็มอีแห่งชาติ หรือ SME National Awards จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 11 โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว) ได้รับความร่วมมือจากสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ นำแนวทางของเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award – TQA) มาปรับใช้ เพื่อสรรหาเอสเอ็มอีต้นแบบที่มีความสามารถในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานที่ดี มีความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีประกาศผลและมอบรางวัล
"เรามองว่าธุรกิจจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ในประเทศยังมีศักยภาพ โดยแผนธุรกิจในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ จะโฟกัสที่การขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย ควบคู่ไปกับการขยายช่องทางจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปรับเปลี่ยนองค์กรเข้าสู่ยุค Digital Transformation อย่างเต็มตัว เพื่อมุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และช่วยหนุนธุรกิจลูกค้าให้เติบโตไปพร้อมกับเรา" นายกวีศิลป์ กล่าวสรุป