โดยโครงการนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงอุทิศพระองค์เพื่อการศึกษาและพัฒนาประเทศ ในปีนี้ นักศึกษาปริญญาโท 11 คน จาก 6 ประเทศได้รับทุนการศึกษาในสาขาวิชาต่างๆ ได้แก่ ชีวเคมี เทคโนโลยีชีวภาพ ชีววิทยาสภาวะแวดล้อม สรีรวิทยาการออกกำลังกาย นิติวิทยาศาสตร์ วัสดุศาสตร์และวัสดุวิศวกรรม จุลชีววิทยาและระบบภูมิคุ้มกัน พืชศาสตร์ และพิษวิทยา
รองศาสตราจารย์ ดร.สิทธิวัฒน์ เลิศศิริ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า"นับเป็นเกียรติที่คุณไกรสร จันศิริ ประธานกรรมการ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ให้เกียรติมาร่วมงานกับเราในวันนี้ มหาวิทยาลัยมหิดลและไทยยูเนี่ยนมีความร่วมมือกันมายาวนานในงานด้านการวิจัยและพัฒนา การแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีต่างๆ ในการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยี ตลอดจนความร่วมมือในด้านดังกล่าวระดับประเทศและระดับโลก"
ดร.ธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มด้านนวัตกรรม บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ไทยยูเนี่ยนและมหาวิทยาลัยมหิดลได้ร่วมกันก่อตั้งศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยนขึ้นปี พ.ศ. 2558 ในปีนี้เรายังเดินหน้าร่วมมือกับสำนักนวัตกรรมแห่งชาติ ในโครงการ สเปซ เอฟ เพื่อสนับสนุนส่งเสริมสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอาหารขั้นสูง นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ไทยยูเนี่ยนได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลอีกครั้งในการมอบทุนให้กับนักศึกษานานาชาติระดับปริญญาโทในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทยยูเนี่ยนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุนการศึกษานี้จะยังประโยชน์ให้กับนักศึกษาและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง"
เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี
วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 133.3 แสนล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 47,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน
ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Ruegen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่
จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange(R) และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2561 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่ห้าติดต่อกัน โดยได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 1 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index และได้รับอีกหลากหลายรางวัลสำหรับการเป็นผู้นำในการทำงานด้านความยั่งยืน