ซีเมนส์ประเทศไทยจัดกิจกรรมจิตอาสา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการ Siemens Caring Hands ที่ซีเมนส์มุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามคำมั่นสัญญาของบริษัท ที่จะสร้างประโยชน์ต่อชุมชนที่เราอาศัยทำงาน และดำเนินธุรกิจ
จากข้อมูลของกรมทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง ได้เผยแพร่ถึงปัญหาขยะของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีขยะในทะเลมากเป็นอันดับ 6 ของโลก และมีการปล่อยขยะลงสู่ทะเลถึงกว่า 1 ล้านตันต่อปี ส่วนใหญ่เป็นขยะพลาสติก ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตในท้องทะเลและมีอิทธิพลต่อภูมิอากาศและลมฟ้าอากาศมหาสมุทร
โดยในปีนี้ ด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานราชการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 และเทศบาลนครระยอง ซีเมนส์ ได้สนับสนุนตาข่ายดักขยะปากท่อระบายน้ำความยาว 3 เมตร สำหรับระบบระบายน้ำท้องถิ่นรอบเมืองระยอง พร้อมทั้งได้ร่วมบริจาคถุงเก็บขยะไนล่อนและอุปกรณ์อื่นๆ ให้กับชาวบ้านและหน่วยงานราชการ เพื่อนำไปใช้ในการทำความสะอาดสาธารณะที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง
"ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ทิ้งขยะพลาสติกลงสู่ทะเลอันดับต้นๆ ของโลก โดยมีแนวโน้มว่าปริมาณการทิ้งขยะจะเพิ่มขึ้น ประกอบกับการจัดการขยะอย่างไม่ถูกต้อง ดังนั้น การร่วมรณรงค์ ให้ความรู้และเข้าใจถึงผลเสียของขยะที่ปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อม และการใช้เวลาในการย่อยสลายหลายร้อยปีนั้น เป็นเรื่องที่ทุกคนควรตระหนักและถือเป็นความรับผิดชอบของทุกคน ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ซีเมนส์ ซึ่งมีสาขาอยู่ที่จังหวัดระยอง เห็นความสำคัญในเรื่องนี้" ว่าที่ร้อยตรีพิรุณ เหมะรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าว
"ตาข่ายดักขยะปากท่อนี้ แม้จะเป็นการแก้ปัญหาปลายทาง แต่เป็นทางออกที่ประหยัดค่าใช้จ่ายและได้ผลดีในการช่วยลดการปล่อยของเสียจากระบบระบายน้ำลงสู่ทะเล เทศบาลนครระยองได้ติดตั้งตาข่ายดักขยะปากท่อนี้มากกว่า 20 แห่งแล้ว มีของเสียมากกว่า 2-3 ตันต่อวัน ที่เก็บได้จากท่อระบายน้ำในเขตเทศบาลนครระยอง" นายกิตติพล แต่งผิว รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง กล่าว
ซีเมนส์ ยังได้เชิญชวนพนักงานมาเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมปกป้องสภาพแวดล้อมของเราในกิจกรรมทำความสะอาดชายหาด "Beach Cleaning Day" ณ หาดแหลมเจริญ จังหวัดระยอง ซึ่งสามารถรวบรวมขยะได้กว่า 500 กิโลกรัม หรือครึ่งตัน จากรอบชายหาดแหลมเจริญ
นอกจากนั้น ซีเมนส์ ยังได้จัดทำป้ายรณรงค์ลดการทิ้งขยะใน 2 พื้นที่ คือบริเวณชายหาดแหลมเจริญที่กิจกรรมทำความสะอาดชายหาด และบริเวณชุมชนเก้ายอด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวและสร้างความตระหนักให้กับชาวเมืองเพื่อช่วยกันปกป้องสิ่งแวดล้อม
"ซีเมนส์ก่อตั้งเมื่อ 170 ปีที่แล้วที่ประเทศเยอรมนี จากแนวคิดที่ว่า บริษัท ไม่ควรมุ่งเน้นที่การเพิ่มผลกำไรสูงสุดเท่านั้นแต่ควรรับใช้สังคมด้วย การให้และการรับใช้สังคมในขณะที่ดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและยั่งยืนนั้น ถือเป็นหัวใจของกลยุทธ์ของซีเมนส์ พวกเรามาที่นี่วันนี้ เพื่อตอบแทนสังคมผ่านกิจกรรมจิตอาสา ผมขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐและทุกคนที่ร่วมสละเวลาและความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาของเราที่จะสร้างประโยชน์ต่อชุมชนที่เราอาศัยและทำงาน ตลอดโครงการเราจะสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" นายมาร์คุส ลอเรนซีนี ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซีเมนส์ประเทศไทย กล่าว
ซีเมนส์ประเทศไทยยังต้องการสร้างความตระหนักรู้ ให้ความรู้และเปลี่ยนพฤติกรรมของพนักงานที่มีต่อการจัดการปัญหาขยะและพลาสติก เมื่อต้นปีนี้ซีเมนส์ร่วมมือกับโครงการวน ของบมจ.ทีพีบีไอ ซึ่งเป็นโครงการ ที่แก้ไขปัญหาขยะพลาสติกโดยใช้แนวคิด" เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน" นอกจากนี้เรายังริเริ่มการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในองค์กร โดยกลุ่มพนักงานอาสาสมัครของซีเมนส์ ที่มีแนวคิดในการเริ่มสร้างจิตสำนึกและความตระหนักรู้ให้แก่พนักงานด้วยกันในเรื่องการบริหารจัดการขยะ โดยเริ่มต้นจากในบริษัทก่อน และหวังว่าพนักงานจะสามารถนำไปขยายผลต่อในที่พักอาศัยของตัวเอง และชุมชนต่อไป
นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย ซีเมนส์ ได้ให้การสนับสนุนชุมชนในท้องถิ่น เช่น การสนับสนุนสร้างเสริมคุณภาพชีวิตและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูป่าชายเลนการบริจาคหนังสือและคอมพิวเตอร์ให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนอีกด้วย
เกี่ยวกับ ซีเมนส์ ประเทศไทย
ซีเมนส์ประเทศไทยดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่าศตวรรษ เป็นผู้นำในด้านวิศวกรรมไฟฟ้าเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติและระบบดิจิทัล ซีเมนส์มุ่งมั่นที่จะสร้างคุณค่าในการพัฒนาพลังงานและการผลิตที่มีประสิทธิภาพเพื่อนำไปสู่การพัฒนาชีวิตและสังคมของผู้คนโดยรวม ปัจจุบัน ซีเมนส์ประเทศไทยดูแลการดำเนินงานในประเทศพม่าและกัมพูชาอีกด้วย
เกี่ยวกับ ซีเมนส์
บริษัท ซีเมนส์ เป็นบริษัทผลิตเทคโนโลยีไฟฟ้าระดับโลกที่มีความเป็นเลิศทางวิศวกรรม นวัตกรรมคุณภาพ ความน่าเชื่อถือและความเป็นสากลมานานกว่า 170 ปี ที่มีอยู่ทั่วโลก โดยมุ่งเน้นไปที่การผลิตและจำหน่ายพลังงาน โครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะสำหรับอาคาร ระบบการจ่ายพลังงานไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติและระบบดิจิทัลในอุตสาหกรรมการผลิต และภายใต้การบริหารผ่านธุรกิจที่มีการบริหารแยก ซีเมนส์โมบิลิตี้ (Siemens Mobility) เป็นผู้นำในการจัดหาโซลูชันด้านธุรกิจยานยนต์อัจฉริยะสำหรับการขนส่งทางรถไฟและทางถนน และเนื่องจากซีเมนส์ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ซีเมนส์ Healthineers AG และ Siemens Gamesa Renewable Energy ซีเมนส์จึงเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์และการบริการด้านการดูแลสุขภาพแบบดิจิทัล รวมถึงการหาโซลูชันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการผลิตพลังงานลมทั้งบนบกและนอกชายฝั่ง ในปีงบประมาณ 2561 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 ซีเมนส์สร้างรายได้ 83.0 พันล้านยูโรและกำไรสุทธิ 6.1 พันล้านยูโร ณ สิ้นเดือนกันยายน 2561 บริษัท มีพนักงานประมาณ 379,000 คนทั่วโลก อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.siemens.com