IRM เผยปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อคอนโดฯและบ้านจัดสรร

อังคาร ๐๓ กันยายน ๒๐๑๙ ๑๕:๒๓
อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (IRM) เผยปัจจัยสำคัญที่ผู้บริโภคควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร แนะศึกษารอบด้านเพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาหลังจากเข้าไปอยู่อาศัย

นายธนันทร์เอก หวานฉ่ำ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์ เรียลตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (IRM) และอดีตนายกสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมในยุคนี้ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง เริ่มจากต้องตรวจสอบประวัติที่ดินแปลงที่จะซื้อก่อนว่าเป็นที่ต่ำ เป็นที่เนินสูง เป็นสระหรือบึงฯลฯ เพราะปัจจัยเหล่านี้ทำให้ต้องมีการปรับปรุงที่ดิน ซึ่งจะส่งผลต่อการทรุดของดินในบริเวณที่ก่อสร้าง จะทำให้เกิดปัญหาภายหลังได้ นอกจากนี้แล้วยังต้องพิจารณาสภาพแวดล้อมของโครงการว่ามีระบบไฟฟ้า ประปา ระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ครบถ้วนหรือยัง เช่น ระบบสุขาภิบาล ระบบน้ำทิ้ง ระบบกักเก็บ ฯลฯ ส่วนใหญ่ไม่เคยมีใครถามเรื่องนี้กับโครงการ ดังนั้น เวลาอยู่ไปนานๆ จะมีปัญหาเพราะระบบน้ำทิ้งเหล่านี้ถูกปล่อยไปในที่สาธารณะไม่ถูกต้อง

อีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือ สิ่งอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับปัจจัยในชีวิตประจำวัน มีห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ตลาดฯลฯ หรือไม่ เนื่องจากชุมชนหรือสิ่งอำนวยความสะดวกมีความสำคัญ รวมทั้งต้องตรวจสอบว่าทางหน่วยงานราชการมีโครงการตัดถนนหรือไม่เพราะจะทำให้เกิดปัญหาที่ดินถูกเวนคืน และปัจจัยสำคัญคือเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการ เพราะว่าถ้าเป็นนักลงทุนหน้าใหม่อาจมีปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ ดังนั้น จะต้องดูประวัติในการทำโครงการที่ผ่านมา เรื่องฐานะทางการเงินและทุนจดทะเบียนเพื่อความมั่นใจว่าโครงการจะไม่ล้มก่อนสร้างเสร็จ ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก นอกจากนี้แล้วผู้ซื้อจะต้องตรวจสอบว่าโครงการได้รับอนุญาตจัดสรรถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เริ่มจากต้องมีใบอนุญาตจัดสรร และในโครงการหรือสำนักงานขายจะต้องติดผังโครงการ เช่น ถนนทางเข้าออก ที่ภาระจำยอมต่างๆ ที่อยู่ภายในโครงการต้องมีความชัดเจน เพราะว่าบางโครงการมีปัญหาว่าไปอยู่แล้วถนนภายในโครงการกลายเป็นถนนสาธารณะไม่ได้เป็นถนนภายในโครงการ

นายธนันทร์เอกกล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ซื้อยังต้องพิจารณาเรื่องแผนผังโครงการและวิธีการจัดสรร เพราะจะทำให้ตรวจสอบได้ว่าผู้ประกอบการได้ก่อสร้างตามที่ขออนุญาตหรือไม่ รวมทั้งเรื่องค่าบริการสาธารณะจะมีการเก็บเงินล่วงหน้าประมาณ 1-2 ปี ซึ่งจะต้องถามว่าเก็บไปเพื่อการใด เพราะตามกฎหมายบังคับให้ทำงบประมาณว่าต้องจ่ายเพื่อบริการสารธารณะอะไรบ้าง เช่น ค่าจ้างบริหารการจัดการ ก็จะมีผู้จัดการหรือเจ้าหน้าที่คอยดูแลในหมู่บ้าน ค่าพนักงานรักษาความปลอดภัย ค่าทำความสะอาดฯลฯ แต่ไม่สามารถนำไปใช้จ่ายเรื่องการซ่อมแซมสาธารณูปโภค เช่น ถนนพังระหว่างที่ยังไม่ได้จัดตั้งนิติบุคคล หรือสวนสาธารณะมีปัญหาต้นไม้ตายไม่สามารถเอาเงินส่วนนี้ไปใช้ได้ เป็นต้น ทั้งนี้ IRM มีประสบการณ์ในการบริหารทรัพย์สินทั้งในอาคารชุดและบ้านจัดสรรมากว่า 25 ปี ทั้งการจัดประชุมใหญ่และจดทะเบียนนิติบุคคล สนใจสอบถามข้อมูลการให้บริการเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-2204-1077-82 หรือ www.irm.co.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๐๕ กสิกรไทย ครองแชมป์ธนาคารอันดับ 1 ของประเทศไทย จากการจัดอันดับ World's Best Banks 2025 โดยนิตยสาร Forbes
๑๑:๔๖ โคเวย์แชร์ทริคผิวสวย-หน้าใสรับซัมเมอร์นี้ง่าย ๆแค่ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ
๑๑:๒๑ ผู้ถือหุ้น SMART เคาะ จ่ายปันผล 0.0485 บาท/หุ้น
๑๑:๔๕ หลักทรัพย์ธนชาต คว้า 3 รางวัล จากเวที IAA Best Analyst Awards 2024 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงผลงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่มีคุณภาพโดดเด่น
๑๑:๒๓ เมืองไทยประกันชีวิต จับมือ asava แบรนด์แฟชั่นชั้นนำ ปรับโฉม ชุดพนักงานบริการสาขา ทำจากขวดพลาสติก Upcycling
๑๑:๕๗ ทีทีบี พร้อมเป็นพันธมิตรตอบโจทย์เอสเอ็มอีกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ให้คำปรึกษาทางธุรกิจ สร้างความเติบโตต่อเนื่อง
๑๑:๑๘ ไทยเครดิต คว้ามาตรฐานสากล ISO 14064-1 อีกหนึ่งความภาคภูมิใจ เสริมแกร่งองค์กรคาร์บอนต่ำ เดินหน้าสู่ Sustainable
๑๐:๒๐ XPENG เปิดตัวนวัตกรรมปฏิวัติการขับเคลื่อนด้วย AI ที่งาน Auto Shanghai 2025
๑๐:๓๒ สมัครและชำระเบี้ย กรุงศรีประกันมะเร็ง ตลอดชีพ ผ่านสาขาธนาคาร รับทันที หมอนรองคอ มูลค่า 390 บาท
๑๐:๒๐ ผถห.PREB อนุมัติจ่ายเงินปันผลปี 67 อัตรา 0.20 บ./หุ้น เตรียมขึ้น XD 30 เม.ย. 68 จ่อรับทรัพย์ 23 พ.ค.นี้ ประเมินปี 68 ผลงานสดใส ตุน Backlog หนา 9.2