พิธีมอบถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโครงการ บทเพลงรักแห่งแผ่นดินปีที่ ๙ ภายใต้แนวคิด “สืบสาน จิตอาสา ร้องบรรเลง บทเพลงพระราชนิพนธ์” โดยความร่วมมือระหว่างกองทัพบก และบริษัท ปตท.

โครงการ "บทเพลงรักแห่งแผ่นดิน" ภายใต้แนวคิด "สืบสาน จิตอาสา ร้องบรรเลง บทเพลงพระราชนิพนธ์" ปีที่ ๙ ด้วยความร่วมมือของ กองทัพบก และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากเยาวชนทั่วประเทศ โดยมีวงส่งผลงานเข้าประกวดกว่า 1,000 คลิป ใน 5 ภูมิภาค โดย

วงชนะเลิศในปีนี้ได้แก่ วงณัฐชัยธัช จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จ. กรุงเทพมหานคร

รองชนะเลิศอันดับที่ 1 วง b.k.band แดนสนธยา จากโรงเรียนบึงกาฬ

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 วง RO.Mens จากโรงเรียนวัดราชโอรส

รางวัล Popular Vote วง RO. Mens จากโรงเรียนวัดราชโอรส

รางวัลชมเชย 2 รางวัล วง S.T. BAND จากโรงเรียนวัดทรงธรรม

วง Dreamfeel จากโรงเรียนสุราษฏร์ธานี

รางวัลนักร้องยอดเยี่ยม นางสาวอัจฉริยา จินดาวงศ์ (ป่อปอ) โรงเรียนวัดทรงธรรม

รางวัลนักดนตรียอดเยี่ยม เด็กชาย ศุภกร สอนประสม (ปลื้ม) "กลอง" โรงเรียน สุราษฎร์ธานี

โดยการเฟ้นหาสุดยอดวงตัวแทนของ 5 ภูมิภาค จากทั่วประเทศในค่ำคืนนี้ ร่วมตัดสินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ เพชร์ มาร์ โปรดิวเซอร์ และคอมเมนเตเตอร์ประจำรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว, ซานิ, เอ๊ะ ละอองฟอง ที่มาร่วมค้นหาสุดยอดวงดนตรี นักเรียนนักศึกษาจากทั่วประเทศเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมทุนการศึกษา

ตัวแทนจากวงณัฐชัยธัช จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา น.ส. ภณิตา สิงห์ณรงค์ (นักร้องนำ) และมือเบส

นาย-ถิรคุณ มาศศรี กล่าวถึงการแข่งขันในครั้งนี้ว่า ทีมทราบข่าวจากทางโรงเรียน โดยในการแข่งขันบทเพลงรักแห่งแผ่นดินปีที่ 6 รุ่นพี่ได้ทำแชมป์เอาไว้ และตนได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขัน และคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ในการแข่งขันบทเพลงรักแห่งแผ่นดินปีที่ 7

สำหรับการแข่งขันในปีนี้ มีการเตรียมตัวค่อนข้างน้อย โดยใช้เวลาฝึกซ้อมในการแข่งขันทั้งหมด 3 เดือน กะทันหัน

แต่โชคดีที่มีทีมเวิร์คที่ดี โดยมีสมาชิกทั้งหมด 15 คน ทุกคนในทีมที่เข้ามาปรับตัวได้เร็ว การสมัครเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้พัฒนาต่อยอดความสามารถทางด้านดนตรี โดยเฉพาะการได้เข้าค่าย ได้เรียนรู้เทคนิคทางดนตรีจากอ. โอ๋ - ดูบาดู ที่ให้คำแนะนำและคอมเม้นท์อย่างตรงไปตรงมา สามารถนำมาปรับใช้ได้ และได้เรียนรู้เรื่องความมีระเบียบวินัย ในการฝึกซ้อมระหว่างเข้าค่าย รวมถึงการใช้เวลาอยู่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์

สำหรับความรู้สึกที่ได้รับรางวัล พวกเราดีใจมาก เพราะรางวัลที่ได้รับในวันนี้ ถือเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่จากการทุ่มเท มุ่งมั่น และฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วง เราคิดว่าวันนี้เราทำเต็มที่ เหมือนเป็นวันซ้อมใหญ่ และเราได้ทำสำเร็จตามความฝันแล้ว ปลื้มใจที่เห็นทุกคนนำทีมมาด้วยกัน

ท้ายสุดนี้ อยากฝากถึงน้องๆรุ่นต่อไปที่มีความฝันว่า การฝึกซ้อม มุ่งมั่น และการเป็นทีมเวิร์คที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะพาไปสู่ความสำเร็จที่สวยงามเหมือนพวกเรา

โอ๋ – ดูบาดู หนึ่งในคณะกรรมการ กล่าวถึงเวิร์คชอปทางดนตรี ที่ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน จังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 3 วัน 2 คืนที่ผ่านมาว่า "ตนรู้สึกภูมิใจที่เห็นเยาวชนไทยทุ่มเท มุ่งมั่น ฝึกซ้อม ในการเก็บตัวเข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คชอปดังกล่าว โดยเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับองค์ความรู้ใหม่ๆ และเทคนิคด้านดนตรีที่จะสามารถนำไปพัฒนาตนเองต่อไปในอนาคต ผ่านการเข้าร่วมเวิร์คชอป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติในอนาคตต่อไป"

สำหรับ โครงการบทเพลงรักแห่งแผ่นดินปีที่ ๙ ภายใต้แนวคิด "สืบสาน จิตอาสา ร้องบรรเลง บทเพลงพระราชนิพนธ์" นี้ จัดขึ้นเนื่องด้วยในปีนี้เป็นปีพระบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ถือเป็นโอกาสอันเหมาะสมที่ประชาชนทุกหมู่เหล่าควรแก่การแสดงความจงรักภักดีแด่พระองค์ท่านและสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนไทย โดยเน้น 'การทำความดี ทำให้ด้วยใจ'" โดยมุ่งหวังในการส่งเสริมและผลักดันให้เยาวชนจากทั่วประเทศให้มีโอกาสแสดงความสามารถในทักษะด้านดนตรี ได้ใช้เวลาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันร่วมกัน ตลอดจนร่วมแสดงพลังถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างพร้อมเพรียงกันผ่านบทเพลงอันทรงเกียรติ

สำหรับการแข่งขันรอบตัดสิน ชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ออกแบบโดยอาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ พร้อมทุนการศึกษา ณ ลานอีเดน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์