รองศาสตราจารย์ ดร. ฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนากัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ กับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยมี นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นประธานการลงนามฝ่ายกรมการแพทย์แผนไทยฯ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาพืชกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัย สนับสนุนวัตถุดิบพืชกัญชาในการผลิตตำรับยาแผนไทยที่มีกัญชาปรุงผสมสำหรับนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ภายใต้กรอบและเงื่อนไขที่ถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมาย ในงานเริ่มต้นด้วย รองศาสตราจารย์ ดร. ฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ประธานการลงนามฝ่ายมหาวิทยาลัย กล่าวต้อนรับและถ้อยแถลงเกี่ยวกับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการฉบับนี้ "มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นภาคีกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ด้วยทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องตรงกัน และมีเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะศึกษา วิจัย และพัฒนากัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ภายใต้กรอบและเงื่อนไขที่เป็นไปตามกฎหมาย การลงนามในวันนี้เป็นการลงนามอย่างเป็นทางการ ถือเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญของทั้งสองฝ่ายที่จะร่วมกันดำเนินกิจกรรมและโครงการวิจัยและพัฒนาพืชกัญชาให้เป็นรูปธรรมทั้งกระบวนการผลิต การเพาะปลูก การคัดเลือกสายพันธุ์ การบริหารจัดการ และควบคุมดูแลให้ได้มาตรฐาน มหาวิทยาลัยฯ ยินดีให้การสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นให้ดำเนินไปให้สำเร็จตามเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งการพัฒนามหาวิทยาลัย สังคมและประเทศชาติ เป็นที่สุด"
จากนั้น นายแพทย์ มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้กล่าวถ้อยแถลงว่า "กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มีพันธกิจ พัฒนาวิชาการและการบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยส่งเสริมและพัฒนาการวิจัย การจัดระบบความรู้ พัฒนาแหล่งผลิตและผลิตภัณฑ์สมุนไพร คุ้มครอง อนุรักษ์ และส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทย พัฒนาคุณภาพ มาตรฐานการบริการการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อนำไปใช้ในระบบบริการสุขภาพ อย่างมีคุณภาพ ปลอดภัย และเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนในการดูแลสุขภาพ ดังนั้น กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านไทยที่มีการใช้กัญชาปรุงผสมเพื่อรักษาโรค กรมการแพทย์แผนไทยฯ มีความยินดีอย่างยิ่ง เมื่อได้รับทราบว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาประสงค์จะศึกษา วิจัย และพัฒนาต่อยอดกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขเอง ก็มีนโยบายจะปลดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด และใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ ดังนั้น การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้มีส่วนสนับสนุนพันธกิจของกรมการแพทย์แผนไทยฯ อย่างมาก ขอให้โครงการต่าง ๆ ที่จะร่วมกันหลังจากนี้ประสบความสำเร็จ"
จากนั้น เป็นการแถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตรกัญชาเวชศาสตร์ ระดับปริญญาตรี หลักสูตรแรกของประเทศไทย การแถลงข่าวเริ่มต้นด้วย รองศาสตราจารย์ ดร. ฤๅเดช เกิดวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา แถลงว่า "มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีพันธกิจมุ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เป็นแม่แบบที่ดีของสังคม ดังนั้น การเปิดหลักสูตรกัญชาเวชศาสตร์แห่งแรกในประเทศไทยนั้น จะช่วยตอกย้ำว่า สวนสุนันทาเป็นสถาบันการศึกษาที่มีความถนัดวิชาการและเชี่ยวชาญการศึกษาทุกศาสตร์ รวมทั้งศาสตร์เกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการศึกษาใดเปิดหลักสูตรระดับปริญญาตรีมาก่อน อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยยินดีเป็นเจ้าภาพและเป็นศูนย์กลางรวบรวมนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านกัญชาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้ได้มีโอกาสพบปะเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านกัญชาระหว่างกัน และถ่ายทอดวิทยาการด้านการเพาะปลูก ผลิต วิจัย และพัฒนากัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ให้แก่ผู้สนใจศึกษา การที่มหาวิทยาลัยเลือกเปิดหลักสูตรกัญชาเวชศาสตร์ในระดับปริญญาตรีนั้น เพราะเชื่อว่าการจะผลิตบัณฑิตให้เป็นนักปฏิบัติที่มีคุณภาพ ต้องอาศัยการเรียนอย่างจริงจัง เป็นระบบและต่อเนื่อง ผู้เรียนต้องเข้าใจและรอบรู้ในทุกด้านที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง โดยหลักสูตรกัญชาเวชศาสตร์นี้จะสอนให้ผู้เรียนเข้าใจพื้นฐานตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์กัญชา การเพาะปลูก เก็บเกี่ยว การสกัดด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และลงลึกไปถึงการวิจัยเพื่อนำประโยชน์จากกัญชามาใช้เพื่อการรักษาโรค หลักสูตรนี้จะผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ เพื่อมาช่วยยกระดับการพัฒนาประเทศต่อไป ตรงตามอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยที่ว่า เป็นนักปฏิบัติ ถนัดวิชาการ เชี่ยวชาญการสื่อสาร ชำนาญการคิด มีจิตสาธารณะ"
ต่อจากนั้น รองศาสตราจารย์ ดร. สมเดช รุ่งศรีสวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ กล่าวถึงศักยภาพและความพร้อมด้านต่าง ๆ ว่า "มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีความพร้อมด้านสถานที่ ทรัพยากรการศึกษาและบุคลากรอย่างมาก โดยปัจจุบันวิทยาลัยสหเวชศาสตร์ เปิดหลักสูตรและจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน และวิทยาศาสตร์สุขภาพ อยู่แล้ว วิทยาลัยฯ ตั้งอยู่บนพื้นที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาที่เรียกว่า ศูนย์การศึกษาจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก อากาศปลอดโปร่ง มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการศึกษาครบครัน มีเนื้อที่กว่า 80 ไร่ ทางมหาวิทยาลัยมีการลงพื้นที่เตรียมพร้อมสำหรับการสร้างโรงเรือนเพาะปลูกกัญชาเพื่อวิจัยทางการแพทย์เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ วิทยาลัยสหเวชศาสตร์ยังมีห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยพร้อมสำหรับการทดลอง วิจัย ควบคุมและตรวจสอบคุณภาพ มีอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทยและแพทย์แผนจีน พร้อมจัดการเรียนการสอนหลักสูตรกัญชาเวชศาสตร์ได้ หลักสูตรกัญชาเวชศาสตร์นี้ จัดการเรียนการสอน 2 แบบ ทั้งแบบภาคปกติ เรียนวันจันทร์-ศุกร์ และ ภาคพิเศษ เรียนวันเสาร์และอาทิตย์ ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้จบการศึกษาระดับมัธยมปลายเท่านั้น ยินดีรับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้วทุกสาขา และยังเปิดกว้างให้สามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้ด้วย พร้อมเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการเดือนพฤศจิกายน 2562 นี้ และเริ่มเรียนในเดือนมกราคม 2563" รองศาสตรจารย์ ดร. สมเดช รุ่งศรีสวัสดิ์ เน้นย้ำว่า "โสมดีต้องเกาหลี หลินจือดีต้องที่ประเทศจีน ดังนั้น นี่คือความท้าทายอย่างมากของประเทศไทยที่จะสร้างการรับรู้และผลักดันให้วลี กัญชาดีต้องที่ประเทศไทย เกิดขึ้นและเป็นที่รู้จักในระดับโลก และนั่นจะทำให้กัญชากลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่จะสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในอนาคต"
ปิดท้ายด้วย รองศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ ธวัชชัย กมลธรรม คณบดีวิทยาลัยสหเวชศาสตร์ อดีตอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ได้แถลงถึงที่มาของการเปิดหลักสูตรกัญชาเวชศาสตร์ว่า "ในอดีตมีการใช้กัญชาเป็นยามานานแล้ว กัญชามีสรรพคุณช่วยให้ผ่อนคลาย บรรเทาอาการนอนไม่หลับ แก้อาการลมชัก และอาการเจ็บปวดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากโรคมะเร็ง กัญชาถือเป็นหนึ่งในพืชสมุนไพรที่มีบันทึกในตำรับยาสมุนไพรไทย หากใช้ให้เกิดประโยชน์จะเป็นคุณ แต่หากใช้ผิดก็จะกลายเป็นโทษ ทำให้เสพย์ติดได้ ภายหลังกัญชาถูกขึ้นทะเบียนเป็นยาเสพติด การผลิตและใช้กัญชาจึงหยุดไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังมีผู้แอบลักลอบผลิตและสกัดน้ำมันกัญชาแบบผิดกฎหมายอยู่ ซึ่งในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา กัญชาถูกยอมรับว่ามีคุณสมบัติในการรักษาโรค และมีงานวิจัยที่สนับสนุนแนวคิดกัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์มากมาย ดังนั้น หากมุ่งศึกษาวิจัยเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์แล้ว ถือว่ากัญชามีความสำคัญต่อวงการแพทย์อย่างมาก ซึ่งวิทยาลัยสหเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เล็งเห็นถึงความสำคัญตรงจุดนี้ จึงได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดหลักสูตรกัญชาเวชศาสตร์มากว่า 3 ปีแล้ว โดยเริ่มต้นจากการศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ก่อน สั่งสมประสบการณ์ผ่านการค้นคว้าและวิจัย จากนั้นมองหาพันธมิตรผู้มีความเชี่ยวชาญการเพาะปลูก ผลิต และสกัดน้ำมันกัญชา ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมาเสริมทัพการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่ความพร้อมในการเปิดหลักสูตรระดับปริญญาตรี กัญชาเวชศาสตร์ หลักสูตรแรกในประเทศไทย ในที่สุด" อีกทั้งเน้นว่า "วิทยาลัยสหเวชศาสตร์ มีความพร้อมอย่างมาก เพราะนอกจากจะจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยและแผนจีน โดยมีอาจารย์แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว วิทยาลัยฯ ยังเตรียมพื้นที่ปลูกสร้างโรงเรือนกัญชาที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุดไว้แล้ว เรามองไปถึงการควบคุมคุณภาพตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ การเพาะปลูกในระบบปิดที่เหมาะสม เพื่อให้ได้กัญชาที่มีคุณภาพ การสกัดน้ำมันกัญชาและสารสำคัญด้วยเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย ใช้เพื่อการแพทย์ได้ และวิทยาลัยสหเวชศาสตร์มีโรงงานผลิตยาสมุนไพรที่เต็มไปด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิตที่ได้มาตรฐาน มียาสมุนไพรที่มีส่วนผสมของกัญชาตามตำรับยาแผนไทยที่กรมการแพทย์แผนไทยกำหนด สามารถจัดการเรียนการสอนหลักสูตรกัญชาเวชศาสตร์ได้อย่างแน่นอน โดยวิทยาลัยสหเวชศาสตร์ พร้อมเปิดรับสมัครนักศึกษาได้ปลายปีนี้ และขอนำร่องด้วยการจัดสัมมนาเชิงวิชาการ ในหัวข้อ Modern Technology in Cannabis Extraction ซึ่งจะนำเสนอเกี่ยวกับเทคโนโลยีการสกัดน้ำมันกัญชา และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่จัดจำหน่ายเครื่องมือสกัดได้มีโอกาสให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจด้วย ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2562 นี้ที่ กรุงเทพฯ"
สำหรับผู้สนใจศึกษาหลักสูตรกัญชาเวชศาสตร์ สามารถติดตามข่าวสารการศึกษาและการรับสมัครได้ทางแฟนเพจเฟซบุ๊ก ค้นหาคำว่า กัญชาเวชศาสตร์ https://www.facebook.com/กัญชาเวชศาสตร์-111008246922296 หรือสอบถามได้ที่หมายเลข 034-773-904 และ 098-742-2397