นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นยังมีมติอนุมัติให้บริษัทฯ แต่งตั้งผู้สอบบัญชีรายใหม่แทนผู้สอบบัญชีรายเดิม สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31ธันวาคม 2560
รวมทั้งเห็นชอบต่อแผนปรับโครงสร้างของกลุ่มบริษัทฯ โดยในส่วนของแผนการจ่ายชำระหนี้ ส่วนของเจ้าหนี้หุ้นกู้/ตั๋ว BE แปลงหนี้เป็นทุนทันที (ไม่ติด Silent Period) หรือจ่ายชำระหนี้เป็นเงินสด 100% ของมูลหนี้โดยไม่มีดอกเบี้ยไม่เกิน 7 ปี ,ส่วนของสถาบันการเงินแปลงหนี้เป็นทุนไม่เกิน 5 ปี (ติด Silent Period) หรือจ่ายชำระหนี้เป็นเงินสด 100% ของมูลหนี้ โดยไม่มีดอกเบี้ย ไม่เกิน 10 ปี ***หมายเหตุ โดยมีเงื่อนไขว่าสถาบันการเงินต้องให้วงเงินสินเชื่อแก่บริษัทเท่าเดิม
นายสาวิน กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯ ปรับโครงสร้างภายในและจัดทำงบการเงินต่างๆ แล้วเสร็จ บริษัทฯ มีแผนกลับเข้ามาเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกครั้ง ซึ่งมี 2 ทางเลือกในการพิจารณา คือ เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นต่างประเทศ หรือ เข้าซื้อขายในประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นเจ้าของเหมืองอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ โดยสนับสนุนในส่วนของการเปิดหน้าเหมือง สนับสนุนด้านเงินทุน และนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะสามารถลงพื้นที่เหมืองได้ในเดือนเมษายน 2563 เพื่อให้ทันส่งมอบถ่านหินให้แก่โรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นเพิ่มอีกหลายแห่งในบริเวณที่ใกล้กับเหมืองของบริษัทฯ ด้วยอานิสงส์ที่ประเทศอินโดนีเซียประกาศย้ายเมืองหลวงจากจาการ์ต้ามาอยู่ที่กาลิมันตันตะวันออก ซึ่งเป็นบริเวณที่เหมืองของบริษัทตั้งอยู่
" บริษัทฯ สัญญาว่าจะดูแลผู้ถือหุ้นอย่างเต็มที่ และจะนำพาธุรกิจของบริษัทฯ กลับมาผงาดโดยเร็ว ขอให้ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นในกลุ่มผู้บริหาร และเชื่อมั่นในธุรกิจ เพราะปัจจุบัน EARTH ยังมีเหมืองถ่านหินจำนวน 3 แห่งที่อินโดนีเซีย คิดเป็นปริมาณสำรองถ่านหินราว 250 ล้านตัน ที่ยังสามารถขยายช่องทางสร้างรายได้และนำเงินมาเสริมศักยภาพธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนเพิ่มเติม อีกทั้งยังมีเทรดดิ้งที่ประเทศจีนที่ดีมานด์เติบโตค่อนข้างมากเฉลี่ย 4,000 ล้านตันต่อปี และยังมีกระแสเงินสดรวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งหากทำได้ตามแผนที่วางได้บริษัทฯ จะมีเงิน เพื่อมาชำระหนี้จะกลับมาซื้อขายได้อย่างปกติโดยเร็ว" นายสาวินกล่าว