7 สมาคมเหล็กขานรับ Thai First คมนาคมรับลูกเร่งศึกษาความเป็นไปได้

อังคาร ๑๐ กันยายน ๒๐๑๙ ๐๘:๔๓
กลุ่ม 7 สมาคม ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเหล็กกว่า 470 บริษัท เดินทางเข้าพบนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 เพื่อแสดงความยินดีที่ได้เข้ารับตำแหน่ง และแสดงจุดยืนสนับสนุนนโยบาย "Thai First" ไทยทำ ไทยใช้ คนไทยต้องได้ก่อน เพื่อให้โครงการก่อสร้างต่างๆ ในสังกัดกระทรวงคมนาคมช่วยให้เกิดการหมุนเวียนมูลค่าทางเศรษฐกิจภายในประเทศ และเป็นแบบอย่างที่ดีในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยของหน่วยงานภาครัฐอื่นๆ อีกด้วย เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน

นายนาวา จันทนสุรคน นายกสมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย และผู้ประสานงานกลุ่ม 7 สมาคมเหล็กฯ รายงานถึงสถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กไทยขณะนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาสินค้านำเข้าที่พฤติกรรมการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมทั้งการทุ่มตลาดและการหลบเลี่ยงมาตรการทางการค้า ส่งผลให้ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 มีส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือเพียงร้อยละ 34 ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีนับตั้งแต่ปี 2559 นอกจากนี้อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ในอัตราที่ต่ำมากประมาณร้อยละ 38 เท่านั้น ซึ่งขณะนี้เวียดนามได้ส่งเสริมอุตสาหกรรมเหล็กจนมีอัตราการใช้กำลังการผลิตแซงประเทศไทยแล้วอยู่ที่ร้อยละ 69 หรือ แม้แต่ประเทศอินโดนีเซียก็ตั้งเป้าใช้กำลังการผลิตในประเทศถึงร้อยละ 70 ในปี 2562

กลุ่ม 7 สมาคมเหล็กฯ จึงขอสนับสนุนนโยบาย Thai First ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมซึ่งเป็นนโยบายที่เป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศในอาเซียน รวมถึงประเทศต่างๆทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกาที่มีนโยบาย Buy American โดยล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 ได้ปรับเพิ่มสัดส่วนการใช้สินค้าในประเทศกับโครงการภาครัฐ โดยกำหนดใช้สินค้าเหล็กที่ร้อยละ 95 และสำหรับสินค้าอื่นร้อยละ 50-75 หรือ อินเดียที่มีนโยบาย Make in India ซึ่งทั้งหมดเป็นนโยบายเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศทั้งสิ้น โดยกลุ่ม 7 สมาคมเหล็กฯ ได้เสนอให้กำหนดสัดส่วนการใช้สินค้าเหล็กและเหล็กกล้าที่ผลิตได้ภายในประเทศสำหรับงานโครงการของกระทรวงคมนาคมในอัตราขั้นต่ำร้อยละ 90 รวมถึงพิจารณาใช้สินค้าเหล็กตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของไทย (มอก.)

ดร.สมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกิตติมศักดิ์ คณะกรรมการบริหารสถาบันเหล็กฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปัจจุบันการก่อสร้างงานภาครัฐที่ประมูลได้โดยบริษัทสัญชาติจีนนั้น ประเทศไทยได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจน้อยมากเนื่องจากจีนจะยกมาทั้งโครงสร้างเหล็กซึ่งประกอบด้วยเหล็กหลายผลิตภัณฑ์ โดยส่งผลกระทบต่อโดยตรงผู้ประกอบการเหล็กในประเทศและผู้ผลิตโครงสร้างเหล็กในประเทศซึ่งมีการจ้างงานกว่าหมื่นคน อีกทั้งสินค้าโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูปที่นำเข้ามานั้นขณะนี้ยังไม่มีมอก. ควบคุมคุณภาพด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวมการกำหนดสัดส่วนการใช้สินค้าเหล็กที่ผลิตในประเทศจึงมีความสำคัญมาก

ดร. เภา บุญเยี่ยม เลขาธิการสมาคมผู้ผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน กล่าวเสริมว่า ปี 2561 มีการนำเข้าสินค้าโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูปประมาณ 2.7 แสนตัน มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25 ของความต้องการใช้ โดยส่วนใหญ่ใช้แรงงานจากต่างประเทศ ไม่มีการจ้างงาน และไม่เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจของประเทศ

นายพลัฎฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ ผู้แทนสมาคมโลหะไทยให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันภาครัฐมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระดับเศรษฐกิจของประเทศ โดยได้มีการอนุมัติโครงการขนาดใหญ่มากมายเพื่อส่งเสริม GDP ของประเทศ

ซึ่งหากเป็นในอดีตโครงการดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นการผลิต การใช้ในประเทศได้เป็นอย่างดี เนื่องจากอุตสาหกรรมก่อสร้างมีความเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ต่างๆ มากมายในประเทศแต่ในปัจจุบันได้ผลค่อนข้างน้อย เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ใช้สินค้าสำเร็จรูปนำเข้าจากต่างประเทศทำให้ไม่เกิดการผลิต การจ้างงานในประเทศ แต่อานิสงค์ทางเศรษฐกิจกลับไปอยู่กับผู้ประกอบการจากต่างประเทศแทน

นายชัยเฉลิม บุญญานุวัตร นายกสมาคมผู้ผลิตเหล็กทรงยาวด้วยเตาอาร์คไฟฟ้าให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า หากมีการกำหนดสัดส่วนการใช้สินค้าเหล็กในประเทศ ควรจะพิจารณาให้เกิดการใช้สินค้าเหล็กทั้งห่วงโซ่การผลิตเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกล่าวว่ารับทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว จึงได้มีแนวทางแก้ปัญหาโดยกำหนดเป็นนโยบาย Thai First ขึ้นมาและผลักดันให้เป็นนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลด้วยและได้มอบหมายให้

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคมร่วมกับกลุ่ม 7 สมาคมเหล็กฯ ตั้งคณะทำงานศึกษาความเป็นไปได้ในการใช้สินค้าเหล็กในประเทศของกระทรวงคมนาคม โดยให้เร่งดำเนินการภายในเดือนตุลาคม 2562 นี้เพื่อนำเสนอผลการศึกษาต่อคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณากำหนดนโยบายต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version