นางอุมาพรฯ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์บริการ มีเป้าหมายยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้มีความเข้มแข็งในการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานสากล เสริมสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรม และขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับนโยบายของรัฐบาล พร้อมเป็นส่วนสนับสนุนในด้านงานบริการ เช่น สร้างศูนย์บริการ one stop service โดยให้บริการด้วยระบบ MSTQ จัดสร้างศูนย์ประจำภูมิภาค และทำงานร่วมกับห้องปฏิบัติการภาครัฐ เอกชน ชุมชน มหาวิทยาลัยฯลฯ เพื่อการทำงานที่สามารถต่อยอด และขยายผลได้มากขึ้น รวมถึงมุ่งเน้นให้มีการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และผลงานวิจัยไปถ่ายทอดให้กับผู้ประกอบการชุมชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม
สำหรับในปี พ.ศ.2562 นี้ กรมวิทยาศาสตร์บริการ มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้มีเอกภาพและประสิทธิภาพเพื่อเร่งสร้างสังคมนวัตกรรม โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 เป็นหน่วยงานที่มีขีดสมรรถนะสูงโดยการสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพของประเทศ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ประกอบการและประชาชน จึงได้ขยายงานบริการทดสอบใหม่จำนวน ๓ กลุ่ม 9 รายการทดสอบ ประกอบด้วย
กลุ่มด้านอาหาร 5 รายการ ได้แก่ (1) การทดสอบความปลอดภัยในอาหารโดยเฉพาะสารปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์อาหาร (2) การทดสอบปริมาณโลหะหนักที่แพร่กระจายจากพลาสติกสัมผัสอาหารตามมาตรฐานสหภาพยุโรป (3) การทดสอบสาร Functional ingredients ในผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ (4) การวิเคราะห์รสชาติในตัวอย่างอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้เครื่อง Taste Sensing System (TSS) (5) บริการทดสอบโปรไฟล์กลิ่นในอาหารด้วยเทคนิค GC-O-MS
กลุ่มวัสดุก่อสร้าง 3 รายการ ได้แก่ (1) การทดสอบผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง คอนกรีตผสมเสร็จสำหรับสิ่งแวดล้อมทะเล มอร์ต้าเทปรับระดับไหลได้ด้วยตัวเอง และ มอร์ต้าฉาบผิวบาง (2) การทดสอบกระจกอนุรักษ์พลังงาน และ (3)การทดสอบวัสดุเม็ดอนุภาคสะท้อนแสงสำหรับทำเครื่องหมายจราจรบนผิวทาง
กลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ 1 รายการ ได้แก่ (1) รายการทดสอบด้วยเครื่อง X-ray diffraction เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นต้องใช้การวิเคราะห์โครงสร้างและองค์ประกอบของวัสดุที่แม่นยำซึ่งเครื่อง X-ray diffraction ที่กรมมีอยู่สามารถวิเคราะห์ได้ทั้งเชิงคุณภาพและปริมาณ มีฐานข้อมูลที่ทันสมัยครอบคลุมวัสดุหลายประเภท และรองรับการพัฒนานวัตกรรมในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
นางอุมาพรฯ กล่าวย้ำว่า บริการทดสอบที่กรมได้เปิดให้บริการใหม่จะตอบโจทย์ตรงความต้องการของผู้ประกอบการไทยที่ปัจจุบันอยู่ในสถานการณ์การแข่งขันและการกีดกันทางการค้าสูง การใช้ผลทดสอบจะช่วยยืนยันมาตรฐานสินค้าตามมาตรฐานสากลอีกทั้งบริการทดสอบรายการใหม่ยังสอดคล้องกับการประกาศใช้มาตรฐานสินค้าใหม่ของประเทศคู่ค้าด้วยนับว่าการบริการทดสอบสินค้าเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านคุณภาพที่สำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สินค้าไทยในระดับประเทศและระดับสากล
ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้ารับบริการสามารถเข้าผ่านระบบได้ที่เว็บไซต์ http://onestop.most.go.th เว็บไซต์ www.dss.go.th หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กรมวิทยาศาสตร์บริการ 75/7 ถนน พระราม6 แขวง ทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ 02 201 7000 และสายด่วน กระทรวงการอุดมศึกษาฯ โทรศัพท์ 1313