การยกระดับการศึกษาอาชีวะทวิภาคีของอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ดำเนินการในครั้งนี้ ถือเป็นการสนองตอบนโยบายของ สอศ.ที่เป็นรูปธรรมในการปฏิบัติงานชัดเจนดังที่ทราบกันแล้วว่า ระบบทวิภาคีจะช่วยสร้างค่านิยมที่ดีต่อการเรียนอาชีวศึกษา ผู้เรียนมีความสุข ผู้ปกครองมีความภูมิใจกับความสำเร็จของบุตรหลานมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ ชีวิตมีความมั่นคง สังคมมีความสุข ซึ่งทุกคนในสังคมต้องช่วยกัน โดยเฉพาะผู้ปกครองและชุมชนในการร่วมกันแก้ไขปัญหา เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในสิ่งดีงามของผู้เรียนอาชีวศึกษาที่ช่วยเหลือสังคม มีจิตอาสา ช่วยเหลือพัฒนาในด้านต่างๆ ผู้เรียนอาชีวศึกษาจำนวนมากสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ประเทศไทย
ดร.ประชาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการนำนโยบายสู่การปฏิบัติให้บังเกิดผลสำเร็จนั้นมีความสำคัญมาก การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพของสถานศึกษาและการประสานความร่วมมือกับชุมชนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาเป็นพลังร่วมในการขับเคลื่อนโดยน้อมนำแนวพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง การเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนามาเป็นกลยุทธ์ในการทำงาน เร่งดำเนินงานให้บังเกิดผลสำเร็จให้ทุกชีวิตรอบตัวอยู่ดี มีความสุข และขอน้อมนำพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการเชิญชวนให้ประชาชนชาวไทยทุกคน ที่จะร่วมกันปฏิบัติงานตามฐานะและหน้าที่ของตน โดยยึดเอาประโยชน์คือความเจริญมั่นคงของประเทศชาติและความผาสุกร่มเย็นของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด
"อาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำหนดเป้าหมายในการดำเนินโครงการฯ เพื่อขยายและยกระดับการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีให้กับผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษาอาชีวศึกษา ภาครัฐ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 116 สถานศึกษา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการจัดการเรียนการสอนระบบทวิภาคีของ สอศ. ผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสถานศึกษาอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้องมีความรู้ความเข้าใจกี่ยวกับการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี เพื่อผลิตกำลังคนอาชีวศึกษาให้มีคุณภาพตามกรอบคุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ" ดร.ประชาคม กล่าวปิดท้าย