"การจัดงานการสาธิตการใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ ในแปลงเรียนรู้เกษตรอัจฉริยะการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในครั้งนี้ นอกจากเกษตรกรจะได้เรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาสาธิตแล้ว ยังได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ของการดำเนินการเกษตรอัจฉริยะ ซึ่งสามารถลดต้นทุน ลดแรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ส่งผลให้เกษตรกรมีความพึงพอใจ ดังนั้นกระรทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงเตรียมขยายผลอีกในพื้นที่ 500 ไร่ โดยมีสมาชิกอย่างน้อย 20 ราย ในปี 2563 ตามความต้องการของเกษตรกร พร้อมกันนี้จะขับเคลื่อนในรูปแบบประชารัฐ ซึ่งมีบริษัทที่พร้อมสนับสนุน อาทิ โดรน เครื่องปรับระดับดิน Laser land leveler สารกำจัดศัตรูพืช เป็นต้น อีกทั้งเกษตรกรพร้อมที่จะลงทุนเพื่อเป้นผู้ประกอบการ Startup เกษตรอัจฉริยะ เพื่อใช้ในกลุ่มของตัวเอง และพัฒนาสู่การเป็นผู้รับจ้างในอนาคต เพื่อสร้างรายได้และอาชีพที่มั่นคง " นางสาววราภรณ์ กล่าว
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะขับเคลื่อนการดำเนินงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในอนาคตจะสร้าง IOT platform เพื่อเสนอข้อมูลการประเมินผลจาก sensors ต่าง ๆ ในแปลงข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อใช้แจ้งเตือนเกษตรกรให้สามารถเตรียมรับมือจัดการในแปลงและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว และที่สำคัญคือจะมีการเสนอข้อมูลจาก sensors ต่าง ๆ ที่ติดตั้งในแปลงนามาแสดงผลบนจออัจฉริยะ หรือ Dash board จอแสดงผลเพื่อแจ้งเตือน ช่วยในการจัดการในแปลง และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นำเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะที่หลากหลาย มาผสมผสานใช้เป็นต้นแบบในแปลงเรียนรู้ เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำเทคโนโลยีและแนวทางการทำเกษตรอัจฉริยะไปขยายผลในเกษตรแปลงใหญ่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป พร้อมจะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลเกษตรอัจฉริยะ หรือ War room เพื่อช่วยประมวลผลและจัดส่งข้อมูลให้เกษตรกร เพื่อช่วยในการตัดสินใจในระบบการทำเกษตรกรรมได้อย่างแม่นยำผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้
สำหรับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นพืชไร่เศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่งของประเทศไทย โดยสถานการณ์การผลิตในปี 2561 พบว่า พื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และมีความต้องการใช้ภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561-2562 พบว่า มีความต้องการใช้เพื่อเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ มากถึง 8.25 ล้านตัน