"ขอให้เอ้กบอร์ด กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ อย่าใจอ่อนกับคนกลุ่มเล็กๆ ผมเองก็เป็นเกษตรกร เข้าใจดีว่าใครๆก็อยากมีรายได้เพิ่มกันทั้งนั้น แต่การขอขึ้นราคาไข่ไปเรื่อยๆอาจส่งผลกระทบในภาพรวม เช่น ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อน และจะจูงใจให้เกษตรกรเพิ่มจำนวนไก่ที่เลี้ยงกระทั่งส่งผลให้ปริมาณไข่ล้นตลาดอีกครั้ง กลายเป็นวังวนของวัฎจักรราคาไข่ตกต่ำอีกรอบ เราร่วมกันแก้ปัญหามาถึงปัจจุบันที่พอมีราคาขายพ้นต้นทุนมาได้ก็น่าพอใจแล้ว ความเจ็บปวดที่ต้องขายไข่ขาดทุนมันฝังใจเราไม่อยากกลับไปเผชิญกับมันอีก" นายกสมาคมกล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ต้องประสบภาวะขาดทุนสะสมต่อเนื่องนานนับ 2 ปี ส่งผลให้หลายรายติดหนี้ ไม่มีความสามารถในการผ่อนชำระหนี้สิน และบางรายถึงกับต้องขายสินทรัพย์ เลิกอาชีพไป จึงเป็นที่มาของการระดมทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมกันแก้ปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวนำทีมโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เอ้กบอร์ด ผู้ประกอบการภาคเอกชน และเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั่วประเทศ ตลอดจนกระทรวงพาณิชย์และผู้บริโภคที่เข้าใจและเห็นใจเกษตรกร กระทั่งมีผลลัพธ์ประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ สามารถดึงราคาไข่ขึ้นให้เกษตรกรพ้นขาดทุนได้แล้วอย่างสมดุล นับแต่นี้ไปจึงควรรักษาเสถียรภาพราคาไข่ให้นิ่ง ไม่ให้กลับไปสู่วังวนเช่นเดิมอีก