ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 60.1 ระบุเมื่อถึงเวลานอนต้องใช้เวลานานกว่าจะนอนหลับ รองลงมาคือ ร้อยละ 48.2 ระบุตื่นก่อนเวลาที่ตั้งใจจะตื่นนอน และร้อยละ 34.5 ระบุมีปัญหาสะดุ้งตื่นขณะหลับไปแล้ว นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.9 ระบุในช่วง 30 วันที่ผ่านมาเคยตื่นขึ้นมา ปวดคอ ปวดหลัง ปวดชาเมื่อยตามตัว ในขณะที่เพียงร้อยละ 9.1 ไม่เคยมีปัญหา
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.5 ระบุ ที่รองนอน ฟูก หมอน มีส่วนทำให้เกิดปัญหาการนอน ในขณะที่เพียงร้อยละ 3.5 ระบุว่าไม่มี อย่างไรก็ตามที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.5 สนใจที่นอนยางพารามากกว่าที่นอนที่เป็นโฟม เพราะที่นอนยางพาราทำมาจากธรรมชาติในขณะที่ที่นอนโฟมทำมาจากสารสังเคราะห์ต่าง ๆ ในขณะที่ร้อยละ 12.5 สนใจที่นอนเป็นโฟมมากกว่าเพราะให้ความรู้สึกนุ่มกว่า นอกจากนี้ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 79.8 เคยพบที่นอนยางพาราของ เก็ทท่า เวนตี้ และมิสเตอร์บิ๊ก ในขณะที่ร้อยละ 20.2 ไม่เคยพบ เมื่อถามถึงปัญหาอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ทำให้นอนไม่หลับนอกจากสาเหตุจากที่รองนอน ฟูกและหมอนแล้วพบว่า อันดับแรกหรือร้อยละ 47.3 ระบุ ปัญหาเศรษฐกิจ ขัดสนเงินทองเป็นสาเหตุทำให้นอนไม่หลับ รองลงมาคือร้อยละ 45.2 ปัญหาการทำงาน ร้อยละ 30.5 ปัญหาสภาพแวดล้อม ร้อยละ 20.6 ปัญหาการเมือง และร้อยละ 13.9 ปัญหาในชุมชน ตามลำดับ
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ปัญหาการนอนคนไทยเป็นปัญหาใหญ่เพราะเท่าที่มีข้อมูลเคยพบว่าการนอนเป็นปัจจัยสำคัญทำให้คนมีความสุขสูงมากแต่เมื่อคนไทยเกิดปัญหานอนไม่หลับจึงจำเป็นต้องดูหลาย ๆ ปัจจัยและโพลนี้ชี้ให้เห็นว่านอกจากที่รองนอน ฟูก หมอนเป็นสาเหตุสำคัญแล้วยังมีปัญหาเศรษฐกิจ การทำมาหากินขัดสนมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ ปัญหาในที่ทำงาน ปัญหาตกงาน ปัญหาสภาพแวดล้อม และความเบื่อหน่ายต่อการเมืองที่ทำให้คนไทยคาดหวังสูงแต่เข้ามาก็มีแต่ความขัดแย้งยังไม่มีผลงานช่วยแก้ความเดือดร้อนของประชาชนชัดเจน ดังนั้นถ้าจะเพิ่มความสุขให้คนไทยรัฐบาลอาจจะให้ความสนใจสนับสนุนให้คนไทยมีปัจจัยเกื้อหนุน "ความสุขจากการนอน" ให้มากขึ้น คือ เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากกว่าปัญหาการเมืองตามผลโพลที่ค้นพบล่าสุด และสนับสนุนทำให้ประชาชนมีที่รองนอน ฟูก หมอน ที่นอนที่เอื้อต่อความสุขของคนไทย