Ksher Payment ชี้ 3 เทรนด์หลัก “Cashless – Paperless – Digitalized” กลยุทธ์มัดใจนักท่องเที่ยวจีนสาย FIT สำหรับธุรกิจโรงแรม

จันทร์ ๑๖ กันยายน ๒๐๑๙ ๑๔:๑๙
Ksher Payment (เคเชอร์ เพย์เมนท์) บริษัทฟินเทคชั้นนำ ได้เผยข้อมูลวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่วางแผนเดินทางและท่องเที่ยวด้วยตนเอง (Free Independent Traveler หรือ FIT) ที่เป็นแนวโน้มใหม่ของนักท่องเที่ยวจีน และเป็นกลุ่มที่มีอัตราเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีพฤติกรรมการจับจ่ายแบบไร้เงินสด โดยจะใช้ e-wallet ผ่านแอปพลิเคชันยอดนิยมของชาวจีน ทั้ง Alipay และ WeChat Pay และมีไลฟ์สไตล์ดิจิทัล (Digital) ตลอดตั้งแต่การหาข้อมูล การจองโรงแรม การเข้าใช้บริการโรงแรม การชำระเงิน ไปจนถึงการบอกต่อหรือแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวของผ่านโลกโชเชียล พร้อมแนะธุรกิจโรงแรมไทยควรปรับตัวทั้งด้านนวัตกรรมการรับชำระเงินแบบดิจิทัล และนวัตกรรมด้านบริการช่วยปรับมาตรฐานบริการ และภาษา เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะดึงดูดลูกค้ามาใช้บริการได้มากขึ้นและบอกต่อความประทับใจต่อการใช้บริการของโรงแรม ซึ่งจะส่งผลให้โรงแรมประสบความสำเร็จ ครองใจนักท่องเที่ยวชาวจีนได้ต่อไป

โดย มร. เจสัน ลี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เคเชอร์ เพย์เมนท์ จำกัด ได้ร่วมแนะนำข้อมูลพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม FIT และแนวทางการการตลาดแบบดิจิทัลในหัวข้อ "Strategies for Conquering the China FIT Market" ภายในงานสัมมนา "Digital Marketing for Hotel Business: Critical Tactics for 2020" จัดโดย สมาคมโรงแรมไทย (Thai Hotels Association) ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการและนักการตลาดในธุรกิจโรงแรมจากทั่วประเทศร่วมรับงานกว่า 150 คน

จากข้อมูลพบว่านักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม FIT ที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีสัดส่วนผู้ชาย 48% และผู้หญิง 52% ซึ่งใกล้เคียงกัน โดยช่วงอายุระหว่าง 25-30 ปี มีสัดส่วน 28% เป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยอายุน้อยกว่า 24 ปี (22%) และช่วงอายุ 31-35 ปี (20%) ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวกว่า 54% จบระดับการศึกษาระดับปริญญาตรี โดยนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มใหญ่กว่า 62% เดินทางมาจากเมืองรอง (2nd Tier city) ของจีน อาทิ เฉิงตู ฉงชิ่ง หางโจว ในขณะที่นักท่องเที่ยวจากเมืองใหญ่ (1st Tier city) ของจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้, กวางเจา, ปักกิ่ง และเซินเจิ้น มีเพียง 16% เท่านั้น โดยเป็นนักท่องเที่ยวที่มีใช้จ่ายสูง คือประมาณ 8,000 หยวนต่อทริปต่อคน มากถึง 47% และ 6,000 หยวนถึง 46% ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจท่องเที่ยวอันดับแรก คือ มีกิจกรรมที่น่าสนใจ 91% มากกว่าเรื่องของงบประมาณที่มีนักท่องเที่ยวจีนให้ความสำคัญเพียง 73%

มร. เจสัน กล่าวว่า "นักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่ม FIT มีเทรนด์ที่ชัดเจน 3 ข้อ คือ "Cashless – Paperless – Digitalized" ที่กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมควรศึกษาและปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวจีนได้อย่างครบถ้วน และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการต่อไป

ข้อแรก Cashless ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนกว่า 64% นิยมชำระเงินโดยใช้ e-wallet ผ่านแอปพลิเคชันยอดนิยมของชาวจีน ทั้ง Alipay และ WeChat Pay และอีกกว่า 40% พบว่าไม่พกเงินสดเลย

ข้อ 2 Paperless นักท่องเที่ยวจีนกว่า 92% ใช้โทรศัพท์มือถือ และใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงต่อวันบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมหาข้อมูลการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นข้อมูลโรงแรมที่พัก การเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง อ่านรีวิวต่างๆ ผ่านโมบายล์แอปพลิเคชัน ไม่ใช่การศึกษาจากหนังสือคู่มือการเดินทาง, โบรชัวร์โรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยว หรือการสอบถามจากพนักงานโรงแรมเหมือนแต่เดิมและ

ข้อสำคัญประการสุดท้าย Digitalized นักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์ดิจิทัลแบบครบวงจร ตั้งแต่การหาข้อมูล การจองโรงแรม การเข้าใช้บริการโรงแรม การชำระเงิน ไปจนถึงการบอกต่อหรือแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวของผ่านโลกโชเชียล

"ดังนั้นผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่ต้องการเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวจีนกลุ่ม FIT ควรเร่งปรับตัว โดยเริ่มจากสิ่งสำคัญที่สุด คือ การเพิ่มช่องทางการรับชำระเงินด้วย e-wallet ผ่านแอปพลิเคชันยอดนิยมของชาวจีน ทั้ง Alipay และ WeChat Pay จากนั้นจะสามารถเพิ่มเติมนวัตกรรมด้านการชำระเงินที่สะดวกมากขึ้น เช่น บริการ Remote Collection ผ่านทางแอปพลิเคชัน Ksher Boss ซึ่งโรงแรมสามารถส่งข้อมูลโรงแรม พร้อมรายละเอียดการชำระเงินแบบทางไกล และลูกค้าสามารถชำระเงินได้ง่ายบนโมบายล์แอปฯ WeChat ได้เลย หรือบริการ Pre-Authorization การชำระเงินแบบวางมัดจำด้วยการสแกน QR Code เมื่อลูกค้า Check out ก็สามารถตรวจสอบและหักค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง แล้วคืนเงินมัดจำให้กับลูกค้าได้อย่างสะดวก เป็นต้น" มร. เจสัน กล่าว

"ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ไม่ถนัดที่จะสื่อสารภาษาอังกฤษด้วยการ 'พูด' ถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการให้บริการของโรงแรม Ksher จึงได้พัฒนาระบบปฎิบัติการที่นำเสนอนวัตกรรมด้านบริการ เพื่อปรับรูปแบบการสื่อสาร โดยเชื่อมโมบายล์แอปฯของนักท่องเที่ยวจีน เข้ากับระบบปฎิบัติการของโรงแรมให้สื่อสารถึงกันได้สะดวกด้วยภาษามาตรฐานผ่านระบบดิจิทัลทั้งหมด ช่วยลดการสื่อสารที่ผิดพลาด และเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า เช่น บริการ Smart Hotel Butler, Mobile Menu และ Multi-Language UI นอกจากนี้ ยังสามารถนำข้อมูลของนักท่องเที่ยวมาวิเคราะห์ เพื่อพัฒนากลยุทธ์และการวางแผนต่อไปได้อีกด้วย" มร. เจสัน กล่าวเสริม

ธุรกิจโรงแรมและร้านค้าที่มีความสนใจใช้บริการโซลูชันด้านธุรกรรมการเงินจาก Ksher Payment เพื่อต่อยอดธุรกิจกับลูกค้าทั้งนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวไทย สามารถสมัครใช้บริการได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปิดบริการแรกเข้า โดยติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 02-150-0508 ต่อ 2, Line: @ksherservice, Facebook: KsherThailand และ www.ksher.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก