ไทยได้อานิสงส์ ศึกการค้าสหรัฐ-จีนดันยอดสมัครโครงการพำนักระยะยาวในไทยพุ่ง

อังคาร ๑๗ กันยายน ๒๐๑๙ ๑๘:๐๐
ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยไม่ตั้งใจจากความสัมพันธ์ทางการค้าที่สับสนวุ่นวายระหว่างสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก โดยในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน แสดงความต้องการที่จะบังคับใช้มาตรการภาษีการค้าระหว่างกันนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนทวีความรุนแรงขึ้น และกำลังส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นมากเท่า ๆ กับที่สั่นคลอนความสัมพันธ์จีน-สหรัฐเอง

อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศไทย ดูเหมือนว่าท่ามกลางความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ จะมีแสงสว่างปรากฏอยู่ โดยมาในรูปของการลงทุนจากบุคคลชาวต่างชาติที่สมัครเข้าร่วมโครงการลงทุนเพื่อขอพำนักอาศัย (residence-by-investment program) ในไทยเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนการย้ายที่ตั้งของบรรดาบริษัทต่างชาติเพื่อคว้าความได้เปรียบจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยและมีเสถียรภาพที่ประเทศไทยนำเสนอแก่ชาวต่างชาติ

Dominic Volek หัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส (Henley & Partners) ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐาน เปิดเผยว่า ชาวเอเชียที่สมัครเข้าร่วมโครงการ Thailand Elite Residence Program เพิ่มขึ้น 50% ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา (กรกฎาคมและสิงหาคม) เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยอดสมัครจากฮ่องกงเพิ่มขึ้นสามเท่าในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงกรกฎาคม 2562 รวมกัน

"เมื่อพิจารณาจากความสนใจของชาวจีนที่มีต่ออสังหาริมทรัพย์หรูหรา สิ่งที่ทำให้ประเทศไทยมีความน่าดึงดูดมากขึ้นจึงมาจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยปัจจุบันจีนเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมเงินทุนไหลออก ขณะที่ชาวจีนเองก็เริ่มหันไปหาอสังหาริมทรัพย์ที่มีช่วงระดับราคาต่ำลง ซึ่งประเทศไทยมีข้อเสนอที่ยอดเยี่ยมที่สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้ โดยคอนโดมิเนียมระดับกลางถึงไฮเอนด์ในประเทศไทยมีช่วงราคาอยู่ที่ 40,000 - 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นราคาที่จ่ายได้เมื่อเทียบกับการซื้ออสังหาฯ ในออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร หรือสหรัฐอเมริกา" Volek กล่าวเสริม

โครงการ Thailand Elite Residence Program ให้วีซ่าแบบ multiple-entry แก่ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตรงตามกำหนด โดยอนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศและพำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้เป็นระยะเวลา 5-20 ปี ในราคาแบบจ่ายครั้งเดียว ซึ่งเริ่มตั่งแต่ 500,000 บาท (ประมาณ 16,000 ดอลลาร์สหรัฐ) จนถึง 2.14 ล้านบาท (ประมาณ 68,000 ดอลลาร์สหรัฐ)

ในขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐทวีความรุนแรงขึ้นนั้น ดูเหมือนว่าประเทศไทยกำลังจะได้รับรางวัลตอบแทนความพยายามตลอดไม่กี่ปีที่ผ่านมาในการที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางสำหรับธุรกิจและนักลงทุนที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามในภูมิภาค รองจากฮ่องกงและสิงคโปร์

สื่อมวลชนติดต่อ

Paddy Blewer

Group PR Director

[email protected]

มือถือ: +44-774-190-9957

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ