นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฮอนด้าประเทศไทย ยังได้จัดกิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากพายุโซนร้อนหลังน้ำลด โดยบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมมอบส่วนลดพิเศษ 30% สำหรับค่าอะไหล่ เคมีภัณฑ์ และอุปกรณ์ตกแต่งทุกรายการ สำหรับรถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยสืบเนื่องจากพายุโซนร้อน โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการมาตรฐานฮอนด้าในจังหวัดที่ประสบอุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 – 31 ธันวาคม 2562 และบริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด จะจัดกิจกรรม Honda Mobile Free Service โดยออกให้บริการตรวจเช็คสภาพรถจักรยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยฟรี ณ เทศบาลวารินชำราบและเทศบาลทุ่งศรีเมือง ในวันที่ 1– 4 ตุลาคม 2562 และ ณ ศูนย์บริการรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทุกแห่งในจังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 1– 15 ตุลาคม 2562
ทั้งนี้ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย เกิดจากการผนึกกำลังของกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด และบริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด โดยการสมทบทุนจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฮอนด้าเข้าเป็นกองทุนฉุกเฉินเพื่อใช้ในกิจกรรมบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนชาวไทยในยามต้องเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ น้ำท่วม ดินถล่ม ภัยหนาว ภัยแล้ง ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ที่ดำเนินงานภายใต้กองทุนฮอนด้าฯ ได้อย่างทันท่วงที และสร้างประโยชน์สุขให้กับคนไทยดังเจตนารมณ์ของฮอนด้าในการสร้างสรรค์คุณค่าเพื่อเป็นองค์กรที่สังคมไทยต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไป
เกี่ยวกับกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย
กลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ได้ร่วมกันจัดตั้งกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 เพื่อเตรียมความพร้อมในการมอบความช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับประชาชนไทยในยามที่ประเทศไทยอาจเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ แผ่นดินไหว ดินถล่ม ภัยหนาว ภัยแล้ง น้ำท่วม ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ
ที่ดำเนินงานภายใต้กองทุนดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที โดยมอบเงินสมทบ 1,000 บาทต่อการขายรถยนต์ 1 คัน 100 บาท
ต่อการขายรถจักรยานยนต์ 1 คัน และ 10 บาทต่อการขายเครื่องยนต์อเนกประสงค์ 1 เครื่อง ทั้งนี้กองทุนฯ ได้กำหนดภารกิจ
ในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านเงินทุน 2) ด้านวัสดุอุปกรณ์ 3) ด้านการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และ 4) ด้านการส่งเสริมความรู้ในการรับมือภัยพิบัติ