ทรีนีตี้ ประเมินตลาดช่วงที่เหลือของเดือนกันยายน 62 มีโอกาสแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,600-1,680 จุด

จันทร์ ๒๓ กันยายน ๒๐๑๙ ๑๓:๕๗
ทรีนีตี้ ประเมินตลาดช่วงที่เหลือของเดือนกันยายน 62 มีโอกาสแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,600-1,680 จุด มองธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง เป็นสิ่งที่คาดการณ์อยู่แล้ว แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้น Defensive และ Selective ไปยังหุ้นในธีม Low bond yield ส่วนหุ้นเด่นเลือก ADVANC-RATCH-JMT-TU--BBL-KCE

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยช่วงที่เหลือของเดือนกันยายน 2562 ประเมิน ม SET Index มีโอกาสแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,600-1,680 จุด โดยมีปัจจัยกดดันที่สำคัญ คือ 1.หลังคลังน้ำมันของซาอุฯถูกโจมตี เริ่มเห็นสัญญาณความเสี่ยง Geopolitical risk ที่สูงขึ้น จนทำให้นักลงทุนทั่วโลกกลับมากังวลกับภาวะเศรษฐกิจโลกอีกครั้ง และเริ่มเห็นปรากฏการณ์โยกย้ายเม็ดเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น 2. ระดับ SET Index ปัจจุบัน ราคาหุ้นเริ่มไม่ถูกแล้วด้วยมิติของ Valuation โดยล่าสุดประมาณการ EPS ปี 2020E ลงมาอยู่ที่ระดับ 110 บาทแล้ว ทั้งนี้ หากอิงบนระดับ Forward PE ในกรณีดีสุดที่ 15 เท่า จะได้ระดับดัชนีที่เหมาะสมอยู่เพียงแค่ 1,650 จุดเท่านั้น หรือแทบไม่มี Upside จากระดับดัชนีปัจจุบันเลย

สำหรับปัจจัยบวกที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ การทำข้อตกลงการค้าฉบับชั่วคราวระหว่างสหรัฐฯกับจีน หากการเจรจาระหว่างผู้แทนของทั้ง 2 ประเทมีทิศทางที่ดีขึ้น อาจนำมาสู่การประกาศข้อตกลงชั่วคราวได้ เช่น 1. การเลื่อนการเพิ่มอัตราภาษีเป็น 30% บนสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2.5 แสนล้านเหรียญฯออกไปอีกจากวันที่15 ต.ค. 2. การยกเลิกการเพิ่มอัตราภาษี 30% นี้ และ 3.การเลื่อน /ยกเลิกการเก็บภาษี 10% บนสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 1.6 แสนล้านเหรียญฯที่จะบังคับใช้วันที่ 15 ธ.ค.นี้ ซึ่งอาจนำมาสู่การเลื่อน/ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าของจีนในอัตรา 5-10% ที่จะมีขึ้นในวันเดียวกัน หากเกิดขึ้นจริงจะเป็นผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา เช่น อิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้ นายณัฐชาต ยังแนะนำกลยุทธ์การลงทุน Defensive และ Selective ไปยังหุ้นในธีม Low bond yield (ไฟแนนซ์, สาธารณูปโภค, สื่อสาร, REIT & IFF) ต่อไป มองตัวหุ้นในกลุ่มนี้ที่น่าสนใจในกลุ่มนี้ได้แก่ S11, THANI, JMT, RATCH, TPCH, EASTW, ADVANC, INTUCH นอกจากนั้น แนะนำหาจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาลงมาแรงเช่น TU และ ถือลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์เช่น BBL เนื่องจากคาดว่ากนง.จะคงดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 25 ก.ย.นี้ ส่วนกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA, KCE) แนะหาจังหวะซื้อเมื่อ่อนตัว เพื่อคาดหวัง Positive surprise ที่อาจเกิดขึ้นจากข้อตกลงการค้าชั่วคราวระหว่างจีนกับสหรัฐฯในช่วงถัดไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version