นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ( สสว.) เผยว่า สืบเนื่องจากการจัดงานประชุมวิชาการหัวข้อ "ASEAN MSMEs in the Digital Era: Challenges and Opportunities" เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานในประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ทั้งภาครัฐและเอกชน นักวิชาการ ภาคประชาสังคม รวมทั้งผู้แทนจากประเทศสมาชิก G20 เข้าร่วมสัมมนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดี เพื่อส่งเสริมการใช้ดิจิทัล และแนวทางในการพัฒนาสภาพแวดล้อมให้ผู้ประกอบการในการประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสของผู้ประกอบการ MSMEs ในภูมิภาคอาเซียนที่ต้องเผชิญกับยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (4IR) นั้น
ผอ.สสว. เผยอีกว่า การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย หรือที่เรียกว่า MSME ถือเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลทุกประเทศในกลุ่มอาเซียน ที่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมุ่งเน้นสนับสนุนให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลอย่างเต็มที่ การส่งเสริมให้เกิดการประสานความร่วมมือรัฐและเอกชนในการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้แข็งแกร่งมากขึ้น โดยการใช้ระบบพี่เลี้ยงและให้คำปรึกษาในด้านต่างๆ รวมทั้งการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูล และแหล่งเงินทุน ผลักดันให้เกิดการพัฒนา MSME อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
"ประเทศในประชาคมอาเซียนมีความคล้ายคลึงกันประการหนึ่ง กล่าวคือ มีวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย เป็นจำนวนรวมกันมากกว่าร้อยละ 95 ของจำนวนวิสาหกิจที่มีอยู่ในแต่ละประเทศ ในส่วนของประเทศไทย มีผู้ประกอบการ MSME จำนวน 3 ล้านราย มีการจ้างงานประมาณ 14 ล้านคน โดย MSME เหล่านี้มีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับสูง ในขณะนี้มีสัดส่วนเป็นร้อยละ 43 ของ GDP ประเทศไทย ซึ่งสัดส่วนดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2557 โดยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 0.8 ต่อปี แสดงถึงบทบาทของ MSME ต่อเศรษฐกิจประเทศที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
นายสุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ สสว. ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพอาเซียนของไทย ภายใต้หัวข้อหลัก คือ การส่งเสริมกาใช้ดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยอาเซียน (Digitalization of ASEAN Micro Enterprises) ร่วมกับคณะกรรมการอาเซียนด้านวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการในการใช้ดิจิทัลในการประกอบธุรกิจ และจัดทำแนวทางการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในอาเซียน เพื่อแนะแนวทางให้ผู้กำหนดนโยบาย สร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้อต่อผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งการพัฒนาระบบนิเวศทางการเงินเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่วิสาหกิจรายย่อยในการเข้าถึงแหล่งเงิน สนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่คาดว่ามีประมาณ 66.83 ล้านรายทั่วอาเซียน เข้าสู่ระบบ ก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณ 117 ล้านคนทั่วทั้งอาเซียน และการใช้ดิจิทัลในการออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดย สสว. จะได้เสนอเอกสารนี้ให้ที่ประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Minister Meeting: AEM) ให้การรับรอง และเสนอผู้นำอาเซียนรับทราบในช่วงการประชุมสุดยอดอาเซียน (ASEAN Summit) ครั้งที่ 35 เดือนพฤศจิกายน 2562
สำหรับการจัดงาน "ASEAN MSMEs in the Digital Era: Challenges and Opportunities" มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการเข้าสู่ยุคการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ให้แก่ผู้ประกอบการ MSMEs ในอาเซียนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น โดยภายในงานมีการเสวนาโดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งในและนอกภูมิภาคอาเซียนภายใต้ 4 หัวข้อหลัก ดังต่อไปนี้
1. Advancing MSMEs 4.0 with Digital Transformation แนวทางในการนำเทคโนโลยียุคดิจิทัลมาปรับใช้สำหรับการบริหารจัดการธุรกิจ
2. Enhancing Capability for MSMEs through Public - Private Partnership ความคิดเห็นจากตัวแทนทางภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งวิธีการสนับสนุนทางด้านข้อมูลและให้คำปรึกษาในด้านเทคโนโลยีและการเข้าถึงตลาดและการเงินให้แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
3. Financial Inclusion for MSMEs มุ่งเน้นไปที่การสร้างตระหนักรู้ในประเด็นปัญหา และอุปสรรคที่ผู้ประกอบการ MSMEs ต้องเผชิญในประเด็นการเข้าถึงตลาดและการเงินจากแหล่งเงินทุนผ่านสถาบันทางการเงิน
4. Digitalization of Ecosystem for Financial Inclusion การเสวนาเกี่ยวกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนสำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสำหรับการเข้าถึงการเงินทั้งในรูปแบบดั้งเดิม ร่วมสมัย และดิจิทัล
นอกจากนี้ การจัดงานประชุมดังกล่าว ยังสอดรับกับข้อเสนอของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อการประชุมผู้นำ G20 ที่นครโอซากา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แสดงความพร้อมของไทยในฐานะประธานอาเซียนที่จะขยายความร่วมมือระหว่างอาเซียนและ G20 อย่างเป็นรูปธรรมเพื่อสานต่อแนวคิด ASEAN Outlook on the Indo-Pacific โดยหนึ่งในประเด็นที่เสนอได้แก่ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางปฏิบัติที่ดีกับ G20 ในเรื่องการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างครอบคลุมโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการเงินเพื่อเปิดโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างครอบคลุมให้แก่ชุมชนห่างไกล สตรี เยาวชน และผู้ประกอบการ start up อีกด้วย