โรงแรมทั้งสามแห่ง จะได้รับการก่อสร้างเป็นอาคารใหม่ ภายใต้ชื่อ อมารี จอมเทียน พัทยา มีจำนวนห้องพัก 400 ห้อง ชามา วงศ์อมาตย์ พัทยา มีจำนวนห้องพัก 250 ห้อง และ โอโซ่ พระตำหนัก พัทยา มีจำนวนห้องพัก 123 ห้อง
อมารี จอมเทียน พัทยา ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (mixed-use) ริมหาดจอมเทียนในเขตพัทยาใต้ พร้อมส่วนเชื่อมต่อกับศูนย์การค้าแบบคอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรมฯ ประกอบด้วยอาคาร 30 ชั้นที่ได้รับการตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย ให้บริการและสิ่งอำนวย
ความสะดวกอื่นๆ ตามมาตรฐานแบรนด์อมารี อาทิ ห้องอาหารอมาญา ฟู้ด แกลเลอรี่ (Amaya Food Gallery) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตลาดสตรีทฟู้ด บรีซ สปา ที่พร้อมมอบบริการทรีตเมนต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัตถุดิบท้องถิ่น และบริการอมารี โฮสต์ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ได้แก่ ร้านอาหารท้องถิ่น ห้องพักในชั้นเอ็กเซ็คคิวทีฟ เอ็กเซ็คคิวทีฟ เลานจ์ และบีช คลับ อมารี จอมเทียน พัทยา มีกำหนดเปิดให้บริการ ปีพ.ศ. 2567 พร้อมเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการจัดงานสำคัญและการประชุมต่างๆ โดยมีบริการห้องประชุมและห้องบอลรูมที่สามารถรองรับจำนวนแขกเข้าร่วมงานสูงสุด 1,000 คนสำหรับการจัดงานเลี้ยงแบบค็อกเทล
ชามา วงศ์อมาตย์ พัทยา ตั้งอยู่บนหาดพัทยาเหนือ ประกอบด้วยห้องพักที่ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะสำหรับการเข้าพักระยะยาว จำนวน 250 ห้อง โดยแบ่งออกเป็นห้องพักแบบสตูดิโอ ห้องพักแบบอพาร์ตเมนต์หนึ่งห้องนอน และห้องพักแบบอพาร์ตเมนต์สองห้องนอน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อาทิ ห้องอาหารที่เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน เลาจน์ สระว่ายน้ำ สวนหย่อม และห้องออกกำลังกาย ชามา วงศ์อมาตย์ พัทยา พร้อมให้บริการตามมาตรฐานแบรนด์ชามา ได้แก่ บริการแม่บ้านสำหรับแขกผู้เข้าพักระยะยาว โปรแกรม"ไร้พรมแดน" ที่จัดกิจกรรมฮู้ดทัวร์ (hood tours) เปิดโอกาสให้แขกผู้เข้าพักได้สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวในละแวกใกล้เคียง และร่วมทำกิจกรรมกับคนในชุมชน นอกจากนี้ยังมีบริการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนท้องถิ่นอีกด้วย ชามา วงศ์อมาตย์ พัทยา มีกำหนดเปิดให้บริการในปีพ.ศ. 2568
ส่วนโอโซ่ พระตำหนัก พัทยา มีกำหนดเปิดให้บริการในปีพ.ศ. 2565 ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 123 ห้อง ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายระหว่างการพักผ่อนในย่านการค้าที่แสนคึกคัก โรงแรมแห่งนี้ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม การเชื่อมต่ออย่างมีประสิทธิภาพและออกเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่ชื่นชอบได้อย่างสะดวกสบาย การออกแบบตกแต่งในห้องพัก
ทุกห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในละแวกใกล้เคียง และมีการจัดวางผังห้องให้แขกผู้เข้าพักสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับกิจกรรมในแต่ละช่วงของวัน อาทิ การพักผ่อนและเตรียมตัวก่อนออกเดินทางอีกด้วย
นายดักลาส มาร์เทล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า "พัทยานับเป็นบ้านเกิดของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป และเป็นที่ตั้งของโรงแรมแห่งแรกที่เปิดให้บริการมานานกว่าครึ่งศตวรรษ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ขยายเครือข่ายมายังจุดหมายปลายทางที่สำคัญแห่งนี้ ด้วยการลงนามเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับบริษัท รัตนากร แอสเซท จำกัด เพื่อรับบริหารโรงแรมใหม่ทั้งสามแห่งภายใต้สามแบรนด์หลักของเรา เนื่องด้วยชายฝั่งตะวันออกของประเทศไทยได้รับการพัฒนาเป็นจุดหมายปลายทางหลักสำหรับการเดินทางในประเทศและระหว่างประเทศ โดยมีแผนโครงการพัฒนาเส้นทางคมนาคมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการขยายเส้นทางถนน รถไฟ และโครงสร้างพื้นฐานทางการบิน รวมถึงการลงทุนอื่น ๆ สืบเนื่องมาจากโครงการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้จะส่งเสริมให้ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป กลายเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านการบริการจัดการโรงแรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างเต็มตัว"
นายจักรรัตน์ เรืองรัตนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท รัตนากร แอสเซท จำกัด กล่าวว่า "ความร่วมมือระหว่างบริษัท รัตนากร แอสเซท จำกัด ซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในอุตสาหกรรมการบริการและการโรงแรมที่มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง กับออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป บริษัทผู้นำในการบริหารจัดการโรงแรมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ จะช่วยให้การรุกขยายเครือข่ายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกที่ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเราเล็งเห็นศักยภาพของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ปในฐานะพันธมิตรเพื่อการขยายเครือข่ายโรงแรมในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอย่างมีคุณภาพ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร่วมมือในการขยายเครือข่ายแบรนด์อมารี ชามา และโอโซ่ ที่จะเปิดให้บริการในพัทยาครั้งนี้จะประสบความเร็จได้ด้วยดี"
ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันบริหารจัดการโรงแรมและเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ ภายใต้แบรนด์อมารี โอโซ่ และชามา ทั้งหมด 50 แห่งในแปดประเทศ และมีแผนรุกขยายเครือข่ายใหม่อีกกว่า 20 แห่งในตลาดต่าง ๆ อาทิ ประเทศจีน มาเลเซีย และลาว โดยมีเป้าหมายจะเปิดให้บริการโรงแรม และเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ในเครือข่ายทั้งหมด 99 แห่งภายในปีพ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการเป็นบริษัทขนาดกลางด้านการบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ทและเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ที่ดีที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก