นาย อภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (Mr. Aphinant Klewpatinond, Chief Executive Officer, Kiatnakin Phatra Financial Group) เปิดเผยว่า "ความสามารถในการออกและซื้อขายหลักทรัพย์ดิจิทัลบน iSTOX จะช่วยยกระดับบริการทางการเงินในตลาดทุนให้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม เพราะแพลตฟอร์มนี้เปิดให้มีรูปแบบการระดมทุนและการลงทุนที่ตลาดทุนในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้ อีกทั้งยังลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องให้ต่ำลงด้วยการใช้เทคโนโลยีในการปรับโครงสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ร่วมตลาดหรือตัวกลางทางการเงิน (Re-intermediation) ดังนั้น ถือเป็นการเปิดโอกาสให้กับทั้งฝ่ายผู้ออกหลักทรัพย์ที่ต้องการระดมทุน ตลอดจนผู้ลงทุนที่มองหาหลักทรัพย์ที่อาจไม่มีในตลาดอื่นๆ โดยเฉพาะสินทรัพย์ใน Private Markets ซึ่งปกติมักมีต้นทุนธุรกรรมที่สูงไม่ว่าสำหรับผู้ซื้อหรือผู้ขาย ยิ่งกว่านั้น การที่ iSTOX ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีโครงสร้างทางกฎหมายและการกำกับดูแลที่ก้าวหน้า และมีผู้ถือหุ้นหลักที่แข็งแกร่งทั้งในองค์ความรู้และความน่าเชื่อถืออย่าง SGX และ Heliconia จะเป็นปัจจัยสนับสนุนการบุกเบิกมิติใหม่ของบริการตลาดทุนครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี"
ด้านนาย Danny Toe ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ICHX Tech (Mr. Danny Toe, Founder and Chief Executive Officer, ICHX Tech Pte. Ltd.) กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรเข้าเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลักและพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสนับสนุน iSTOX ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประสบการณ์ที่ยาวนานและธุรกิจตลาดทุนที่มั่นคงของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร โดยเฉพาะฐานลูกค้าจากบริการวาณิชธนกิจและบริการให้คำปรึกษาการลงทุนส่วนบุคคล (Private Wealth Management) คือปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เราบรรลุผลในการสร้างแพลตฟอร์ม iSTOX ให้เป็นแพลตฟอร์มตลาดทุนแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างเต็มรูปแบบ เรามั่นใจว่าการได้ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรในครั้งนี้จะช่วยสร้างโอกาสและประโยชน์ต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในระบบตลาดทุนอย่างครบถ้วน"
ทั้งนี้ ระบบตลาดทุนปัจจุบันอยู่ภายใต้ข้อบังคับและขั้นตอนปฏิบัติที่ซับซ้อน ซึ่งส่งผลให้การระดมทุนมีต้นทุนที่สูงและถูกจำกัดในวงแคบ แพลตฟอร์ม iSTOX จึงถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) มาใช้เพิ่มความโปร่งใส และลดต้นทุนของธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ที่เป็นดิจิทัลทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการออกหลักทรัพย์ในตลาดแรก หรือการซื้อขายในตลาดรอง แพลตฟอร์ม iSTOX จึงตอบโจทย์การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของบริษัทที่ต้องการเงินทุนไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถระดมทุนผ่านการเป็นผู้ออกหลักทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์ม iSTOX ในรูปแบบต่างๆ ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ หรือกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่นักลงทุนก็จะได้ประโยชน์จากทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น เช่น การลงทุนในสินทรัพย์ Private Markets การลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ รวมไปถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
"ความสำเร็จของแพลตฟอร์มน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาตลาดทุนให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาศักยภาพของระบบเศรษฐกิจโดยรวมอีกด้วย" นายอภินันท์เสริม
ปัจจุบันแพลตฟอร์ม iSTOX อยู่ในระหว่างการดำเนินงานภายใต้สนามพัฒนาความพร้อมของผลิตภัณฑ์หรือ FinTech Regulatory Sandbox ของธนาคารกลางแห่งชาติสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore) โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในช่วงต้นปี 2563 หลังจากที่ได้มีการคัดเลือกผู้ออกหลักทรัพย์ดิจิทัลและนักลงทุนสำหรับการออกหลักทรัพย์ดิจิทัลชุดแรกในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2562 นี้ และจะเริ่มเปิดให้นักลงทุนสามารถเริ่มซื้อขายหลักทรัพย์ดิจิทัลในตลาดรองได้ภายในช่วงเวลาเดียวกัน