ทั้งนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา SSI ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีการก่อสร้างระบบคอนกรีตอัดแรง ได้รับความไว้วางใจเข้าให้บริการในโครงการขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ในประเทศไทย 30 – 40 โครงการ เช่น โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน – โคราช, มอเตอร์เวย์บางใหญ่ – กาญจนบุรี งานก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง – ชมพู เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทมีโครงการรับผิดชอบดำเนินการรวม 25 โครงการ และในปี 2563 คาดว่าจะมียอดเพิ่มขึ้นเท่าตัว หรือมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อีกประมาณ 1,500 ล้านบาท
"ในอนาคต ทางบริษัทเตรียมพร้อมที่จะเข้าให้บริการในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เทคโนโลยีที่ได้มาตรฐานการก่อสร้างในระดับสากล ซึ่งความร่วมมือกับ DSI ในครั้งนี้ จะเป็นการนำเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ทันสมัยมาใช้ในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของไทย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ทั้งยังช่วยลดต้นทุน ยกระดับคุณภาพให้กับงานก่อสร้างในประเทศไทย" นายอกนิษฐ์กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการขยายตัวของโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ รวมถึงทางด่วน และทางยกระดับบางสาย โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564
Mr. Niklas Puttendoerfer President Asia, Business Development Director Asia, DYWIDAG-Systems International GmbH (DSI) กล่าวว่า สำหรับภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทยมีแนวโน้มการขยายตัวการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งความร่วมมือกับบริษัท SSI จะช่วยขยายธุรกิจของ DSI ในภูมิภาคนี้ให้เติบโต โดยบริษัทได้คิดค้นเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ ในกระบวนการก่อสร้าง รวมทั้งเทคโนโลยีในการตรวจวัด ประเมินผล และบำรุงรักษาโครงสร้างขนาดใหญ่ ที่พร้อมจะนำเข้ามาให้บริการในตลาดเมืองไทย