ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 60.4 คิดว่าเป็นเรื่องจริงที่นักการเมืองไทยจ้างบริษัทที่ปรึกษาต่างชาติ ในขณะที่ร้อยละ 39.6 คิดว่าไม่เป็นความจริง นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.1 ประเมินว่าคุณภาพของนักการเมืองในเวลานี้ แย่ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ในขณะที่ ร้อยละ 23.0 ดีทั้งสองฝ่าย และร้อยละ 13.9 ระบุอื่น ๆ เช่น รัฐบาลดีกว่า และ ฝ่ายค้านดีกว่า เป็นต้น
ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.9 ระบุความเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ว่า ฟังคนอื่นเขาว่ามา ไม่ได้อ่านด้วยตนเอง ในขณะที่ ร้อยละ 28.1 ระบุอ่านด้วยตนเองเพียงบางมาตราบ้าง และอ่านทั้งฉบับบ้าง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กล่าวต่อว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ทิศทางการเมืองกำลังเข้าสู่โหมดร้อน ๆ หลายด้าน ทั้งกรณีข่าวนักการเมืองไทยจ้างบริษัทที่ปรึกษาต่างชาติในการเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในประเทศและการขจัดนักการเมืองที่ไม่ดีออกไปจากแวดวงการเมืองไทยด้วยกระบวนการยุติธรรมและกลไกตามรัฐธรรมนูญปี 2560 การประเมินคุณภาพนักการเมืองที่แย่พอ ๆ กันทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมถึงการที่ประชาชนส่วนใหญ่ฟังคนอื่นเขาว่ามาต่อกระแสการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยไม่ได้อ่านด้วยตนเอง มีส่วนน้อยที่อ่านเพียงบางมาตราและน้อยที่สุดคืออ่านด้วยตนเองทั้งฉบับ
"ทางออกตรงไปตรงมาคือ นักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องแสดงฝีมือทำงานร่วมกันให้เห็นว่าหลังการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยแล้วสามารถแก้ความเดือดร้อนของประชาชนได้มากกว่าเข้ามาทำลายกัน ข้อเสนอคือให้เร่งแก้ไขกฎหมายและกำกับดูแลการบังคับใช้กฎหมายขจัดอุปสรรคการทำมาหากิน เพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าของประชาชน ไม่ให้ประชาชนขัดสน และประชาชนเองก็ต้องศึกษาค้นพบด้วยตนเอง อย่ายอมให้นักการเมืองหรือคนอื่นมาชี้นำชักจูงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องของนักการเมือง" ผศ.ดร.นพดล กล่าว