รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลายหน่วยงานคงได้มาย้ำเรื่องการดูแลตนเองเบื้องต้นจากฝุ่น PM2.5 ให้กับประชาชนแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การแนะนำให้ปิดประตูหน้าต่าง เพื่อป้องกันฝุ่นละอองเข้าบ้าน หากปิดหน้าต่างไม่ได้ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดมาปิดแทนหน้าต่าง หรือหากจำเป็นต้องเดินทางออกไปนอกบ้าน ให้ใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดปิดจมูก และปาก หรือสวมหน้ากากกรองฝุ่น และให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือทำงานหนักนอกบ้าน รวมถึงให้ดื่มน้ำมากๆ และงดสูบบุหรี่ในช่วงที่พบฝุ่นละอองในอากาศมาก และที่สำคัญคือไม่เผาขยะ โดยเฉพาะขยะที่มีสารพิษ เช่น พลาสติก ยางรถยนต์ รวมทั้งขยะทั่วไป แต่สิ่งที่ตนอยากฝากเป็นพิเศษคือ ผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยงเช่น ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และเด็กเล็ก กลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจ และหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด โรคเยื่อบุตาอักเสบ ต้องดูแลตนเองให้มากเป็นพิเศษ เพราะฝุ่น PM2.5 จะส่งผลกระทบต่อคนกลุ่มนี้มากที่สุด อยากให้ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านบนอย่างเคร่งครัด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับอากาศที่มีฝุ่นละออง
"และหากผู้ป่วยในกลุ่มพิเศษมีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินให้รีบโทรแจ้งสายฉุกเฉิน 1669 เราพร้อมดูแลผู้ป่วยทุกคนฟรีตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้หากเราจะออกนอกบ้านแล้วไม่รู้ว่าค่าอากาศในช่วงนั้นเป็นอย่างไร อยากแนะนำให้ทุกท่านติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดหรือสามารถเข้าไปเช็คค่าสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ได้เว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ อย่าง www.aqmthai.com , www.aqnis.pcd.go.th และ www.air4thai.pcd.go.th เพื่อเตรียมรับมือกับฝุ่นละอองได้"