เชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนทำอาหารและเชฟแห่ง "ภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์" กล่าวว่า ในฐานะทูตกิตติมศักดิ์ของ "โครงการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม" ภายใต้ "มูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ" หรือ QSCBCF ในปีนี้ "ภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์" ยังคงให้ความสำคัญกับการสรรหาวัตถุดิบชั้นเลิศ หรือ Superfoods ในกลุ่มสมุนไพรไทยจากแหล่งต่างๆ
ของประเทศมารังสรรค์มาเป็นเมนูสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นกระเทียมดำ, ใบชะคราม, มะม่วงหาวมะนาวโห่ และเม็ดกระบก เพื่อสร้างการรับรู้ควบคู่กับการอนุรักษ์สมุนไพรไทยในยุคที่กำลังจะถูกลืมเลือนไปในสังคมไทยปัจจุบัน ในปีนี้ได้นำเสนอเมนู "PINK RIBBON MENU 2019" ภายใต้แนวคิด "Herbs for health" ซึ่งเป็น เมนูเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วย เมนูเรียกน้ำย่อย ได้แก่ หนังปลาแซลมอนหมาล่าน้ำพริกหนุ่มไข่ปลาคาเวียร์, ยำปูใบชะคราม เมนูอาหารว่าง ได้แก่ ส้มตำแก่นตะวันทูน่าสับปะรดสาหร่ายพวงองุ่น, หมูกอและ, ช่อชมพู เมนูประเภทซุป ได้แก่ กะหรี่ไหมฝาน เมนูอาหารจานหลัก ได้แก่ กุ้งลายเสือทอดซอสพริกไทยกระเทียมดำ, แกงสิงหลแก้มวัวและ เมนูขนมหวาน ได้แก่ หม้อแกงถั่วพิสตาชิโออินทผาลัม, เชอร์เบทมังคุด,โยเกิร์ตไวท์ช็อค, แยมมะม่วงหาวมะนาวโห่ โดยไฮไลท์ของเมนูนี้อยู่ที่ แกงกะหรี่ไหมฝาน, ส้มตำแก่นตะวันทูน่าสับปะรดสาหร่ายพวงองุ่น และกุ้งลายเสือทอดซอสพริกไทยกระเทียมดำ ที่ชูความเป็นสมุนไพรไทยและปรุงแต่งมาเป็นเมนูอาหารสุดพิเศษ
"เรามีความเชื่อว่าสมุนไพรไทยมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยบรรเทาโรคภัย ทั้งยังช่วยสนับสนุน ให้ชาวบ้านหันมาเพาะปลูกสมุนไพรมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายหลักของบลู เอเลเฟ่นท์ ที่ต้องการซื้อสมุนไพรไทยจากเกษตรกรโดยตรงโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น" เชฟนูรอ กล่าว
ทั้งนี้ เมนู "PINK RIBBON MENU Herbs for health" ให้บริการเฉพาะมื้อกลางวัน ตลอดเดือนตุลาคม 2562 ราคา 1,200 บาท++ ต่อคนต่อเซต สอบถามเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ภัตตาคารบลู เอเลเฟ่นท์ กรุงเทพฯ (สาทร) โทร. 02-673-9353-8 โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้กับมูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านม มูลนิธิศูนย์มะเร็งเต้านมเฉลิมพระเกียรติ ภายใต้การบริหารของ รศ.นพ.กฤษณ์ และคุณหญิงฟิโนล่า จาฎามระ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2550 เป็นองค์กรสาธารณกุศล ที่มีจุดมุ่งหมายในการช่วยเหลือผู้ป่วยและต้านภัยจากโรคมะเร็งเต้านม โดยมีแนวทางคือ "ป้องกัน รักษา และดูแล" ให้กับผู้ป่วย มูลนิธิได้ก่อตั้ง "บ้านพิงพัก" (Pink Park Village) โดยเป็นศูนย์ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายแก่ผู้ยากไร้ โดยไม่แสวงหาผลกำไร