แบนสารพิษ 3 วัตถุอันตราย...ยังไม่จบต้องลุ้นต่อ!!!

พุธ ๐๙ ตุลาคม ๒๐๑๙ ๑๗:๔๑
กรณีความคืบหน้าเกี่ยวกับการแบนวัตถุอันตรายร้ายแรงทั้ง 3 ชนิด คือ ไกลโฟเซต พาราควอต และคลอไพรีควอท เป็นที่แน่ชัดว่ากระทรวงอุตสาหกรรม ของคุณอนุทิน ชาญวีรกุล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ของคุณวราวุฒิ ศิลปอาชา รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน ต่างก็ไม่เอาด้วยกับสารพิษเหล่านี้ ล่าสุด...มีการเชิญองค์กรทั้ง 4 ฝ่ายมาพูดคุย ได้แก่ ภาครัฐ ผู้นำเข้า ผู้บริโภค และเกษตรกร ได้มติออกมา 9 ต่อ 0 เสียง ให้ยกเลิกการใช้หรือกำหนดสารพิษเหล่านี้ให้เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดีในระดับหนึ่ง…

ความกังวลจากผลงานกรมวิชาการเกษตรและการรักษาผลประโยชน์ของทุนสารพิษ ที่มีการเล่นแร่แปรธาตุในอดีตก็อดห่วงไม่ได้ว่า จะสำเร็จลุล่วงตลอดรอดฝั่งได้หรือไม่ คงต้องรอให้ คุณมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ผลักดันต่อเข้าที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายพิจารณาเห็นชอบด้วยอีกทีหนึ่ง จึงจะสบายใจได้ ซึ่งต้องอย่าลืมว่า...ในท้ายที่สุดแล้ว จะต้องผ่านกระบวนการด่านอรหันต์ทองคำจากคณะกรรมการทั้ง 27 คน (ที่แต่เดิม มี 29 คน) โดยกรรมการทั้ง 27 คนนี้ มาจากหน่วยงานสาธารณสุขเพียง 2 คน ที่ยกมือไม่เห็นด้วย แต่แพ้โหวตตลอดมา เนื่องด้วยหน่วยงานอื่น ๆ เหล่านี้ ไม่มีข้อมูลและมีประสบการณ์โดยตรง ในอดีตก็ได้แต่รับฟังและเห็นพ้องไปกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรรมการจากกลุ่มทุนขายสารพิษเท่านั้น

"เรื่องนี้จึงต้องขยายเพื่อให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนทราบว่า สารพิษร้ายแรงเหล่านี้ ประเทศผู้ผลิตเอง ทั้งอังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ ยังห้ามจำหน่ายในประเทศตนเอง"

ตลอด 20 กว่าปีที่ต่อสู้เรื่องเหล่านี้มา ทำให้เข้าใจดีว่า สารพิษร้ายแรงเหล่านี้ มีการนำเข้ามาปีละเกือบ 100,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 20,000 ล้านบาท นำไปใช้ในไร่อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด ยางพารา ถูกอาบชโลมห่มดิน ฝนตกชะล้างลงมาสู่เขื่อน ห้วย หนอง คลอง บึง ต่อมาก็ถูกหน่วยงานเทศบาลนำมาผลิตเป็นน้ำประปาให้เราได้ดื่มได้ใช้กัน และมีการค้นพบว่า มารดาที่ดื่มน้ำประปานั้นสามารถนำสารพิษนั้นไปสู่ทารกในครรภ์ด้วย เรื่องนี้น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เป็นเรื่องที่เราควรต้อง "หยุด" และ "เลิก" ได้แล้ว จึงอยากฝากให้สื่อและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามให้เกิดผลสัมฤทธิ์ให้ได้โดยเร็ว

ส่วนตัวคิดว่า ก่อนที่จะผลักดัน พรบ.เกษตรอินทรีย์ 3 ล้านไร่ ไปสู่ 5 ล้านไร่ และในปัจจุบันที่กำลังทำกันอยู่เกือบ 1 ล้านไร่นั้น (570,000 ไร่) ควรหันมาให้ความสำคัญกับต้นเหตุเสียก่อน... นั่นก็คือ พรบ.วัตถุอันตราย ในส่วนของพรรคการเมืองและ ส.ส. ซึ่งทำหน้าที่ทางด้านนิติบัญญัติแก้ไขกฎหมาย อยากจะเสนอให้มีการแก้ไข พรบ.วัตถุอันตราย โดยให้มีคณะกรรมการที่หลากหลาย มากจากหลายหน่วยงานเพื่อช่วยกันตรวจสอบ โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถจริง ๆ และมีส่วนเกี่ยวข้องได้ร่วมตัดสินใจ มิใช่ปล่อยให้มีเพียงแต่ตัวแทนจากนายทุนสารพิษเป็นส่วนใหญ่ ปัญหาเรื่องสารพิษทั้ง 3 ชนิดนี้ จะได้ถูกแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเสียที แต่อย่างไรก็ตามเรื่องแบนสารพิษ 3 วัตถุอันตราย...ยังไม่จบแถมมีให้ต้องลุ้นต่อ!!!

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version