สำหรับทั้ง 3 เมนู จัดว่าเป็นเมนู Street Food ของไทย ที่เป็นที่ชื่นชอบของทั้งชาวต่างชาติ และชาวไทยเอง ที่ใครๆ ก็อยากลิ้มลอง เริ่มต้นจากเมนูซิกเนอเจอร์ "ผัดไทยสูตรโบราณห่อไข่" ใครมาเมืองไทยย่อมถามหา มีขายอยู่ทั่วริมทาง รสชาติกลมกล่อมเข้มข้น ห่อไข่คลุมทั่ว พร้อมกุ้งตัวโตเน้นๆ นำมาเสิร์ฟร้อนๆ แล้วบนเครื่อง ใครไม่สั่งชิมบอกเลยว่าพลาด!
เมนูที่ 2 "อาฟเตอร์ยูขนมปังสังขยาไข่เค็มและช็อกโกแลต" จุดเด่นอยู่ที่สังขยารสเด็ด 2 รสชาติสังขยาไข่เค็มและช็อกโกแลต ที่ผสานลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ จิ้มกับขนมปังนุ่มๆ ละมุนลิ้นอร่อยเพลินจนอยากสั่งซ้ำ และเมนูสุดท้ายตามคำเรียกร้อง "ชาไทยไข่มุกบุก" เมนูชานมอันเลื่องลือของแอร์เอเชียตลอดไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ครั้งนี้พัฒนารสชาติเป็นชาไทยกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมไข่มุกบุก เคี้ยวกรุบๆ ไม่เหมือนใคร เมนูนี้ฮิตจริงอะไรจริง ไม่ได้ชิมเดี๋ยวจะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง
นางสาวอรอนงค์ เมธาพิพัฒนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าและบริการบนเครื่องบิน กล่าวว่า แอร์เอเชียได้พยายามคิดค้นเมนูใหม่ๆ และเพิ่มความหลากหลาย เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทุกท่านได้พบกับประสบการณ์ที่ดีระหว่างการเดินทาง
"เราได้ไปร่วมมือกับเชฟ และ ร้านอาหารชื่อดัง หรือคัดสรรเมนูอาหารแปลกใหม่ เพื่อมาบริการให้กับลูกค้าบนเครื่องบิน ลูกค้าจะสนุกไปกับการทดลองชิมอาหารต่างๆ ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละช่วงเวลาที่เดินทาง อีกทั้งเรายังสามารถลบภาพจำของคนที่มักจะคิดว่าอาหารบนเครื่องบินไม่อร่อย เพราะทุกเมนูที่เราเลือกมานั้น ได้ผ่านกระบวนการคิดค้น และพัฒนา เพื่อให้อาหารอร่อย และเหมาะกับการเสิร์ฟบนเครื่องบิน" นางสาวอรอนงค์ กล่าว
นอกจากนี้ จากการศึกษาและทำวิจัยการตลาด เมนูอาหารของแอร์เอเชียนอกจากได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในด้านรสชาติแล้ว ยังสามารถสร้างกระแสทางการตลาดได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น เมนูชานมไข่บุก ที่เป็นกระแสให้คนที่บินกับแอร์เอเชียต้องขึ้นไปลิ้มลองให้ได้ หรือ กระแสของเมนูอาฟเตอร์ยูขนมปังนมเย็นนมโสด ที่มีการฝากซื้อกันเป็นจำนวนมาก สินค้าอาหารจึงสามารถเป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจเลือกบินกับแอร์เอเชียของลูกค้าได้อีกด้วย