การออกแบบโดยรวมของโครงการ "เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ" สะท้อนถึงความภาคภูมิใจของผู้อยู่อาศัยในแบบของตนเองตามคอนเซ็ปต์ "Trophy of Life" รางวัลชีวิตที่สามารถสะท้อนความสำเร็จอันโดดเด่นตามจุดมุ่งหมายที่ตนเองตั้งไว้โดยไม่เปรียบเทียบกับใคร การออกแบบภายนอกโครงการสะท้อนถึงความมีชีวิตชีวาของย่านทองหล่อและถนนเพชรบุรี โดยใช้รูปทรงและแสงสีของตึกระฟ้ายามราตรีของกรุงเทพฯ มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ จนกลายมาเป็นดีไซน์ของเส้นสายสีทองอร่ามบนฟาสาด (Facade) ของอาคารที่เปรียบได้กับแสงไฟที่ส่องสว่างตัดกับตัวอาคารสีดำที่เป็นตัวแทนของท้องฟ้าของมหานครยามค่ำคืน
การตกแต่งภายในโครงการออกแบบขึ้นภายใต้แนวคิด "Unlock" ปลดพันธนาการความจำเจแบบเดิมๆ สู่การใช้ชีวิตและวิธีคิดที่สุดขั้วและท้าทาย เน้นฟังก์ชั่นที่สามารถใช้งานได้จริงแต่ยังคงความสวยงามที่สะท้อนความเป็นตัวตนที่ไม่ซ้ำใคร ตลอดจนการใช้วัสดุธรรมชาติอย่างไม้และทองเหลือง ประกอบกับสีโทนอบอุ่นล้อกับสีภายนอกของอาคารอย่างลงตัว
การออกแบบภูมิสถาปัตย์ของโครงการ "เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ" ถ่ายทอดออกมาผ่านแนวคิด "The Innerside of Life" เปลือยความเป็นตัวตนอีกด้านของจิตใจ ให้ผู้อยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติด้วยพื้นที่สีเขียวเกือบ 1 ไร่ ทั้งสวนบริเวณหน้าโครงการ และ Rooftop Garden เติมความสดชื่นของการอยู่อาศัยด้วยไม้ยืนต้นที่ให้ความร่มรื่นสลับกับไม้พุ่มและไม้ประดับนานาพรรณ เติมแต่งด้วยประติมากรรมและหินธรรมชาติ พร้อมแทรกพื้นที่นั่งพักผ่อนที่ใช้งานได้จริง เปรียบเหมือนโอเอซิสใจกลางเมืองที่ช่วยสร้างความสดชื่นตลอดทั้งวัน
พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ "เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ" เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมยกระดับการใช้ชีวิตคนเมือง บนพื้นที่รวมกว่า 1 ไร่ครึ่งโดยมีไฮไลต์ ได้แก่ คลับเฮ้าส์แบบ Stylish Cafe ที่สร้างเป็นอาคารเรือนกระจกเพื่อรับแสงธรรมชาติ รายล้อมด้วยสวนสวยเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ ร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. รวมถึง Creative Co-working Hub สำหรับการพูดคุยธุรกิจหรือทำงานโดยไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวในพื้นที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังมีล็อบบี้สำหรับทั้งนั่งพักผ่อนหรือใช้ต้อนรับแขกพิเศษก็สามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัยได้อย่างภาคภูมิใจ และ Co-Living Space ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่น สันทนาการ แบบเป็นส่วนตัว
บนพื้นที่ชั้น 6 ของโครงการมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 28 เมตร ห้องฟิตเนสแบบ Pool View พร้อมอุปกรณ์ทันสมัยครบครัน พร้อมกับไฮไลต์พิเศษที่ให้ประสบการณ์การออกกำลังกายที่แตกต่างและท้าทายอย่างเครื่อง Jacob Ladder ซึ่งจำลองการออกกำลังกายในรูปแบบของการปีนบันได ช่วยบริหารหัวใจและกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น รวมไปถึงห้องน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ออกแบบมาให้เอื้อต่อการใช้งานของคนทุกวัย (Universal Design)
เติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตยิ่งขึ้นด้วยพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 36 ซึ่งประกอบด้วย Sky Lounge พื้นที่พักผ่อนส่วนตัวที่ให้ผู้อยู่อาศัยเพลิดเพลินหรือจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ส่วนตัวไปกับมุมมองที่ไม่จำกัดของ City View ได้ถึง 270 องศา พร้อมกับ Sky Theater ห้องความบันเทิงเอนกประสงค์ที่ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ได้ในห้องเดียว ตลอดจน Rooftop Roof Terrace พื้นที่พักผ่อนกลางแจ้งที่รายล้อมด้วยสวนสวยบนดาดฟ้า เหมาะกับการนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน หรือนั่งทำงานในบรรยากาศสบายๆ พร้อม Flexible Furniture ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ และอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่โดดเด่นของโครงการอย่าง Backyard Garden ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัวส่วนกลางที่ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเพาะปลูกและเก็บไปประกอบอาหารรับประทานได้
โครงการ "เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ" ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่เชื่อมต่อกับ LIV-24 บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ควบคู่กับพนักงานรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ภายใต้มาตรฐาน Sansiri Security System พร้อมดูแลป้องกันที่อยู่อาศัยทั้งก่อนและหลังระยะประกันด้วย HOME CARE และบริการ Property Management Service (PRM) โดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์กว่า 20 ปี ในการดูแลจัดการที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร ตั้งแต่การดูแลรักษาอาคารและทรัพย์สินส่วนกลางให้คงมูลค่าไปอย่างยาวนานตลอดจนบริการด้าน ซื้อ ขาย และเช่าอสังหาริมทรัพย์
โครงการ "เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ" ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยการอยู่อาศัยแบบ Low Density จำกัดจำนวนยูนิตในแต่ละชั้นไม่เกิน 17 ยูนิต โดยมีรูปแบบห้องให้เลือกสรรตามความต้องการทั้งการอยู่อาศัยคนเดียวและอยู่เป็นครอบครัว ได้แก่
- ยูนิต 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ / 27.25-29.25 ตร.ม.
- ยูนิต 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ / 31.75-40 ตร.ม.
- ยูนิต 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ / 45.75 ตร.ม.
- ยูนิต 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ / 61.25 ตร.ม.
เชื่อมต่อทุกความเป็นไปได้สู่ทุกไลฟ์สไตล์ที่สะท้อนความเป็นคุณได้ที่ "เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ" ซึ่งพร้อมเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2.69 ล้านบาท