อว.เครื่องร้อน ปฏิรูปอุดมศึกษา เดินหน้าปลดล็อคมหาวิทยาลัย

พฤหัส ๑๗ ตุลาคม ๒๐๑๙ ๑๐:๓๒
ทันทีที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีคนแรกในกระทรวงใหม่ถอดด้าม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ภารกิจสำคัญที่ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง เร่งรัดให้เกิดขึ้นได้โดยเร็วที่สุด คือ การปรับลดข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปอุดมศึกษาและการพัฒนามหาวิทยาลัยตามกลุ่มยุทธศาสตร์ นโยบายด้านการพัฒนาระบบการศึกษาไทย

โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมา แผนงานนี้ได้เริ่มโดยการแบ่งคณะทำงานออกเป็น 3 ชุด 4 กลุ่มทำงาน ได้แก่ การแก้ปัญหาธรรมาธิบาล ด้านตำแหน่งทางวิชาการ ด้านกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ หรือมคอ. และด้านคุณภาพมหาวิทยาลัย พร้อมตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนและติดตามฯ โดยมี รศ.ดร.พีระพงศ์ ทีฆสกุล อาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นประธานคณะทำงานขับเคลื่อนและติดตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและเทคโนโลยี พร้อมดูแลด้านธรรมาธิบาล และดูแลอีก 3 กลุ่มทำงาน เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนประเทศตามแนวทางที่แต่ละมหาวิทยาลัยมีความเชี่ยวชาญ และภารกิจสำคัญคือการผลักดันมหาวิทยาลัยเข้าสู่ 100 อันดับแรกของโลกให้ได้ และวันนี้แผนงานก็ถูกขับเคลื่อนเดินหน้าอย่างแข็งขัน

รศ.ดร.พีระพงศ์ ทีฆสกุล กล่าวว่า ภาพรวมภารกิจที่คณะทำงานต้องมีบทบาทในการดูแล 2 ส่วนหลัก ๆส่วนแรก คือการปลดล็อคข้อจำกัดหรือกฎเกณฑ์ที่ครอบงำมหาวิทยาลัยอยู่มาก ทำให้อาจารย์และมหาวิทยาลัยทำงานไม่สะดวก ประกอบไปด้วย

1. ปลดล็อคระเบียบการตำแหน่งทางวิชาการเพื่อให้อาจารย์สามารถทำงานตอบโจทย์ประเทศ และนำมาใช้ขอตำแหน่งวิชาการ

2. การปรับแก้มาตรฐานการสอนหลักสูตร เน้นเรื่องการสอน ทำให้การประเมินคุณภาพของหลักสูตร สั้นกระชับและเน้นคุณภาพที่แท้จริงมากกว่ากระบวนการ

3. การแก้ไขปัญหาธรรมาธิบาล โดยวางแนวทางการได้มาของสภามหาวิทยาลัยที่ไม่เกิดการขัดผลประโยชน์ มีการดำเนินการไปแล้ว เช่น การหารือกับหน่วยงานเอกชนที่ใช้หลักธรรมาธิบาลมาให้คำปรึกษา การนำวิธีการบริหารของมหาวิทยาลัยที่ทำดีแล้ว มาเป็นตัวอย่างและปรับใช้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน และอาจมีข้อกำหนดจากกระทรวงการอุดมศึกษา

"แผนนโยบายใหม่นี้หากทำสำเร็จจะแก้ไขการเอื้อผลประโยชน์ หรือป้องกันให้มีผู้มาหาผลประโยชน์ภายในมหาวิทยาลัยอย่างไม่ชอบ เรื่องธรรมาภิบาลเป็นเรื่องที่ท้าทายและทำยากที่สุด แต่จะทำให้สำเร็จ" รศ.ดร.พีระพงศ์ กล่าว

ส่วนที่สอง คือการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย โดยเน้นให้มหาวิทยาลัยสามารถเปล่งศักยภาพตามความถนัดที่มีได้อย่างเต็มที่ จะมีการแบ่งกลุ่มมหาวิทยาลัยออกเป็น 3 กลุ่ม มีจุดเน้นที่แตกต่างกัน

ด้าน ศ.ดร.ศันสนีย์ ไชยโรจน์ อาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล ประธานทำหน้าที่แก้ไขปัญหาอุปสรรคของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ได้กล่าวถึงแผนงานที่ดำเนินการไปแล้วโดยเฉพาะเรื่องตำแหน่งวิชาการที่ระเบียบยังไม่ตอบโจทย์และไม่ทันสมัยว่า มีการแต่งตั้งกรรมการให้ครบตามสาขาวิชาให้มากที่สุด และคณะทำงานต้องมีตำแหน่งทางวิชาการคือศาสตราจารย์ มีการแบ่งงานให้แต่ละสาขาไปดูว่า ควรมีการปรับปรุงอย่างไร ทั้งมหาวิทยาลัยภาครัฐและเอกชนที่ต้องแก้ไขกันทั้งระบบ มีการทำประชาพิจารณ์ โดยเชิญคณะกรรมการ กพว. หรือคณะกรรมการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการของมหาวิทยาลัยเป็นผู้ทรงวุฒิซึ่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย มาเข้าร่วมประชุมหารือราว 500 คน และได้แสดงความคิดเห็นเต็มที่

"เราพบปัญหาอยู่ที่กระบวนการมากกว่าเกณฑ์ คือวิธีการขอ วิธีการตัดสิน เป็นหน้าที่ของสภามหาวิทยาลัย อาจารย์ต้องกรอกแบบฟอร์มและข้อมูลผลงาน คณะกรรมการ กพว.จะแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ การพิจารณาซึ่งอาจใช้เวลานาน หรือการหาผู้ทรงคุณวุฒิไม่ตรงสาขา อีกทั้งการพิจารณาโดยผู้ทรงคุณวุฒิบางครั้ง ใช้ความรู้สึกค่อนข้างมาก ซึ่งสิ่งที่เรากำลังทำอยู่จะเปลี่ยนให้เป็นการตัดสินใจในหลักที่มีวิชาการจริง พิจารณาคุณภาพของผลงานทางวิชาการ รวมทั้งระยะเวลาพิจารณาที่รวดเร็วขึ้น" ศ.ดร.ศันสนีย์ กล่าว

ศ.ดร.สุรศักดิ์ วงศ์รัตนชีวิน อาจารย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประธานคณะทำงานย่อยด้านกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (มคอ.) กล่าวถึงจุดมุ่งหมายของ มคอ.ว่า เป็นการประเมินการตรวจสอบหลักสูตรว่าได้มาตรฐานหรือไม่ อย่างไร เป็นหลักสูตรที่สามารถผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพจริงหรือไม่ ซึ่งหลักสูตรทั่วประเทศมีมากกว่า 6 พันหลักสูตร จึงจำเป็นต้องกรอกข้อมูลลงระบบอิเลคทรอนิกส์ทั้งหมด เพื่อการตรวจสอบง่ายขึ้น การประเมินหลักสูตรในปัจจุบันมีความยุ่งยาก ซับซ้อน ไม่สามารถตรวจทีละหลักสูตรได้ สิ่งที่ รมต.อว.จะทำให้เกิดขึ้นคือ การปลดล็อค ยกเลิกแบบประเมิน มคอ. บางข้อที่เป็นข้อมูลไม่จำเป็นหรือ ที่มีขั้นตอนมากมาย ซ้ำซ้อน ให้เหลือเพียง มคอ. 2 ซึ่งเป็นภาพของหลักสูตร โดยมีเป้าหมายให้ได้ข้อมูลที่ใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง ตลอดจนเห็นภาพอัตรากำลังการผลิดบุคลากรด้านอุดมศึกษาของประเทศที่ชัดเจน คุณภาพของหลักสูตรต้องสามารถสะท้อนออกมาในรูปของผลการเรียนรู้ ของผู้เรียน เช่น ตลอดหลักสูตรมีนักศึกษาบรรลุผลการเรียนรู้ตามหลักสูตรเท่าไร นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาเป็น แพทย์ หรือ วิศวกรมีศักยภาพและความสามารถเพียงใด ผลการเรียนรู้นั้นจะออกมาในรูปของ Outcome Based Learning มากกว่าจำนวนนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษา นอกจากนี้ แบบ มคอ นั้นต้องไม่ทำให้หลักสูตรที่มีคุณภาพเป็นภาระ แต่ในทางตรงข้ามหลักสูตรที่ไม่มีคุณภาพต้องสามารถถูกตรวจสอบได้ง่ายขึ้น

"สิ่งที่เราอยากปรับคือเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร ปรับให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมกับหลักสูตรได้ เช่น คนที่เก่งในภาคอุตสาหกรรม เข้ามาเป็นผู้สอนในมหาวิทยาลัย ด้วยการนำความรู้จากภาคอุตสาหกรรมมาบูรณาการ ก็จะทำให้เด็กมีความรู้ที่กว้างขึ้น เราต้องปลดล็อคตรงนี้ ซึ่งการทำงานกลุ่มนี้ก้าวหน้าไปมากแล้ว คาดว่าพฤศจิกายน หรือธันวาคมปีนี้ การแก้ไขต่าง ๆ น่าจะแล้วเสร็จ อีกทั้งมีการปรับระบบการส่งข้อมูลของมหาวิทยาลัยในระบบ CHECO Online ให้ง่ายและสะดวกมากขึ้นด้วย ศ.ดร.สุรศักดิ์ กล่าว

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รัฐชาติ มงคลนาวิน อาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานคณะทำงานด้านคุณภาพของมหาวิทยาลัย เผยความคืบหน้าว่า คณะทำงานได้มีการเสนอจัดตั้งคณะที่ปรึกษา เพื่อพลิกโฉมมหาวิทยาลัย หรือ University Transformation Advisory Committee (UTAC) เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมและติดตามการพลิกโฉมของมหาวิทยาลัยโดยผ่านการเห็นชอบของ กกอ.แล้ว การทำงานขั้นตอนต่อไป จะจัดทำคู่มือเพื่อช่วยมหาวิทยาลัยให้เริ่มต้นการประเมินศักยภาพและผลการดำเนินงานตามกลุ่มยุทธศาสตร์ของตนเองได้ โดย 3 กลุ่มตามยุทธศาสตร์ได้แก่ กลุ่มเน้นความเป็นเลิศระดับแนวหน้าของโลก กลุ่มเน้นตอบโจทย์การพัฒนาท้องถิ่นเชิงพื้นที่ และกลุ่มที่เน้นการสร้างเทคโนโลยี นวัตกรรมและผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดการพัฒนาไปในทิศทางเดียวกันในหลักการของการจัดกลุ่มยุทธศาสตร์ UTAC จะส่งเสริมให้แต่ละมหาวิทยาลัยจัดทำแผนการพลิกโฉม (repositioning plan) ของตัวเองเพื่อให้มหาวิทยาลัยได้มีพัฒนาการเชิงคุณภาพ สามารถแข่งขันได้และทันสมัยในยุคของการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ในระยะสั้นคณะทำงานเสนอให้มหาวิทยาลัยเข้าร่วมระบบประเมินตนเองที่เป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ เช่น U-Multirank , THE Impact ranking หรือ QS Star Rating แต่ละมหาวิทยาลัยสามารถประเมินได้ว่าตนเองอยู่ในระดับใด และมีความโดดเด่นด้านใด อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์มหาวิทยาลัยไทยในเวทีระดับโลกอีกด้วย

"คาดว่าปีหน้าจะได้เห็นผลว่ามีมหาวิทยาลัยไทยเก่งด้านไหน หรือต้องปรับเปลี่ยนตัวเองอย่างไร โดยเรากำลังตั้งหน่วยงานสนับสนุนและส่งเสริมการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยในกระทรวงขึ้นมา เป็นหน่วยงานที่ช่วยแนะนำและทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยให้พัฒนาตนเองต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ " ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รัฐชาติ กล่าว

แผนงานทั้งหมดนี้ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ต้องใช้เวลาในการบูรณาการเพื่อวางพื้นฐานให้แข็งแรง เพื่อการศึกษาไทยจะได้ทะยานไปข้างหน้า แต่เชื่อว่า ทีมอเวนเจอร์ปลดล็อคมหาวิทยาลัยนี้ จะสามารถพลิกโฉมมหาวิทยาลัยไทยให้ก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของเวทีโลกได้ได้ภายในปีงบประมาณ 2563

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version