นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกรมการจัดหางาน ในการขับเคลื่อน "โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนครอบครัวยากจนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ" เพื่อเพิ่มทักษะด้านอาชีพให้แก่นักเรียนที่ยากจน เปลี่ยนเป็นแรงงานฝีมือ เพิ่มโอกาสในการมีงานทำ สร้างรายได้ในการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในบางสาขาอาชีพนั้น ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้กำชับให้หน่วยงานในสังกัดกพร. สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.) และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน (สนพ.) ทั่วประเทศ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่แต่ละจังหวัดเร่งดำเนินการจัดฝึกทักษะอาชีพในแก่นักเรียนยากจน
นายสุชาติ กล่าวต่อไปว่าปัจจุบันทางสพร. และสนพ. ได้จัดประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรองผู้ว่าราชการเป็นประธานในการประชุม ได้บทสรุปในการดำเนินการโครงการดังนี้ ขั้นตอนที่หนึ่ง สำรวจนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย ที่แจ้งความประสงค์ที่จะไม่ศึกษาต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ ขั้นตอนที่สอง นำนักเรียนไปศึกษาดูงานการฝึกอาชีพที่สพร.และสนพ. เพื่อให้เกิดความสนใจในอาชีพและเห็นถึงความต้องการของตนเอง ขั้นตอนที่สาม ฝึกอบรมอาชีพ ทางสพร.และสนพ. มีบริการห้องพักฟรีให้แก่นักเรียน ที่เดินทางไปกลับไม่สะดวก ขั้นตอนสุดท้าย ประสานทางกรมการจัดหางานจัดหานายจ้างและสถานประกอบกิจการที่มีความต้องการรับนักเรียนที่ผ่านการฝึกอบรมเข้าทำงาน เป็นการันตีฝึกจบมีงานทำแน่นอน
"กพร.ได้คัดเลือกหลักสูตรสาขาอาชีพต่างๆ ไว้มากมาย อาทิ ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์และรถยนต์ ช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ ช่างกลึง ช่างประกอบโครงอะลูมิเนียม ช่างตัดเย็บเสื้อผ้า เป็นต้น เพื่อให้นักเรียนได้คัดเลือกอาชีพที่ตนเองสนใจ เป็นหลักสูตรเตรียมเข้าทำงานใช้ระยะเวลาในการฝึกอบรม 3-6 เดือน จะได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ จบแล้วมีงานทำ มีรายได้ ตลาดมีแรงงานคุณภาพ แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานได้อย่างถูกจุด นักเรียนสามารถติดต่อได้ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4" อธิบดีกพร.กล่าว