แต่งงานแล้ว 1 สัปดาห์เต็มๆ
พีเค : จดทะเบียนแล้ว ถือว่าแต่งงานป่ะ
เรียกว่าสมบูรณ์แล้วแต่ยังไม่ได้จัดงานฉลอง
พีเค : ใช่
พี่ปิดเงียบ พวกเราทำงานด้วยยังไม่รู้เลย
พีเค : ไม่ได้ปิดเงียบ การจดทะเบียนเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เป็นเรื่องของคนในครอบครัวแค่นั้น
ถือเคล็ดมั้ย
พีเค : ไม่ถือ
เห็นหลายคนว่าคุณโยเกิร์ตไปดูฤกษ์ แล้วไม่ให้พี่พีเคบอกใคร
พีเค : ไม่ๆ เอาฤกษ์สะดวกของทั้งคู่เลย แล้วที่ต้องทำวันที่ 11 ตค เพราะว่าคืนวันที่ 11เราต้องบินไปนิวยอร์คกันเพื่อที่จะให้ทันวันที่ 15 ตค เพราะ 15 ตค ปีที่แล้ว เป็นวันที่พี่ขอเค้าแต่งงานที่มัลดีฟ
พีมีเจตนาที่จะปิดมั้ย
พีเค : ไม่ได้เจตนาเลย แต่แค่รู้สึกว่าการจดทะเบียนเป็นเรื่องของคนในครอบครัว เรื่องแต่งงานสื่อได้ไปอยู่แล้ว อันนั้นคือเรื่องฉลอง เรื่องงานเลี้ยง เรื่องปาร์ตี้ เจอกันวันแต่ง เพร่ะงานจะดทะเบียนมันควรเป็นอะไรที่อบอุ่นเฉพาะครอบครัว ก็เลยเป็นแค่ครอบครัวพี่ ครอบครัวเค้า แล้วก็เพื่อนสนิทมากๆที่ไป
ทำไมต้อง 3 อีเว้นท์
พีเค :1.คือจดทะเบียน 2.คือบินไปนิวยอร์คเพื่อไปฉลองครบรอบ 1 ปีที่พี่ขอเค้าแต่งงานที่มัลดีฟ
ทำไมบินไปนิวยอร์ค ไม่ไปมัลดีฟ
พีเค : ก็มันบ้านพี่ บ้านพี่อยู่นิวยอร์ค บินไปก็เสียแค่ค่าตั๋วเครื่องบิน ไม่เสียค่าโรงแรมอยู่แล้ว แล้วก็อาจจะหมดกับค่าเลี้ยงคืนนั้น 18คน ที่เหลือก็ต่างคนต่างแยกย้ายเที่ยว
จัดงานไปง้อออแกไนซ์เลย เกิดอะไรขึ้น
พีเค :โยเค้าเป็นคนคิด เค้าเป็นคนคิดว่าจะต้องเชิญใครไปบ้าง แล้วเก้าอี้ใครนั่งตรงไหนบ้าง ของที่ระลึกต่างๆควรจะเป็นอะไร
พี่มีโอกาสได้คิดอะไรเองบ้างมั้ย
พีเค :ไม่ต้อง (ตามใจเค้าหมด ?) แค่เป็นสามีที่ดีแค่นั้นก็จบ
ใครเป็นคนถอดเขี้ยวเล็บนี้ โยทำได้ยังไง
พีเค : คือคนนี้เราคบกันมา 7-8 ปีแล้ว ด้วยความที่มันนานขนาดนั้น เราเข้าใจกัน รู้จักกันดี เป็นเพื่อนที่รักกันที่สุด เป็นคู่ที่รักกันมากที่สุดคู่หนึ่งในไทยเลยก็ว่าได้ มันไม่ต้องคุยอะไรมาก เค้าอยากทำอะไร...บอก
พี่ตอบไม่ตรงคำถาม หนูถามว่าทำไมเค้าถึงถอดเขี้ยวเล็บพี่ได้ แล้วก็กลัวการแต่งงานมาตลอด
พีเค : เค้าเป็นคนที่เก่ง นอกเหนือจากเก่งแล้วเค้าเป็นคนที่สวย เรียนวิศวะไฟฟ้า จุฬาฯ เรียนโทอีก ทั้งสวย ทั้งฉลาด ทั้งเก่ง เลยรู้สึกว่าถ้าใครที่เคยคบมาทั้งหมด สมมุติว่าจะมีลูก สมมุตินะ เพราะคิดว่าจะไม่มี ก็อยากให้เป็นเค้า
เป็นรักแรกพบมั้ยคะ
พีเค :สำหรับพี่เป็นรักแรกพบ เจอเมื่อ 8ทปีที่แล้ว
เห็นว่าโยมีแฟนอยู่แล้ว แล้วพี่ก็รอให้โสด
พีเค : จริงทก็ต้องรอเค้า เค้ามีแฟนอยู่อ่ะ สิ่งทีทำได้คือนั่งรอ แล้วเราก็รู้ว่าไม่นานต้องมีการเลิก
ทำไมถึงรอล่ะ คุณก็มีผู้หญิงเข้าหาตลอดเวลา
พีเค : มีความรู้สึกข้างในลึกๆว่ายังไงเค้าก็ต้องเลิก
สินสอด แหวน สมการรอคอยมั้ย
พีเค : เกินการรอคอยมาก แหวนแพงมาก แหวนอันที่ขออันนั้นอันเล็ก อันนี้ก็เลยขอเพิ่มเพรชอีกหน่อย 4 กะรัต
เค้าเม้าว่าหลายล้านอยู่
พีเค : เกือบๆ 2 ล้าน
วันที่ขอแต่งงาน ตื่นเต้นกว่าวันที่ขอที่มัลดีฟมั้ย
พีเค : วันที่มัลดีฟตื่นเต้นที่สุด วันนั้นเค้าไม่รู้อะไรมาก่อน แต่เมื่อ 15 ตค ที่ผ่านมาเรารู้กันอยู่แล้วว่าจะใช้ชีวิตด้วยกัน แหวนก็แค่สัญลักษณ์ชิ้นหนึ่งที่แสดงว่าเรารักกันมาก
แล้วสินสอดล่ะ.
พีเค :ไม่ต้องมีหรอก อะไรที่เป็นของพี่ก็เป็นของเค้าหมด
สรรพนามตอนนี้เปลี่ยนไปมั้ย
พีเค :เรียกหมูเหมือนเดิม เราอยู่กันมา 8 ปีแล้วอ่ะ เราพยานามทำทุกอย่างให้เหมือนเดิมที่สุด
ตอนนี้คุณโยย้ายมาอยู่บ้านหรือยัง
พีเค :อยู่แล้ว อยู่กันมา 5-6 ปีแล้ว เพราะพี่ไม่เชื่อเลยว่าต้องแยกกันอยู่จนกระทั่งมาแต่งงานถึงจะอยู่ด้วยกัน อย่างนั้นไม่น่าเวิร์ค ต้ององมาอยู่ด้วยกันก่อนว่าอยู่ด้วยกันได้มั้ย อีกคนชอบเปิดไฟ อีกคนชอบปิดไฟ สิ่งเล็กๆน้อยๆแบบนี้เราจะแบบทำไมตอนแรกไม่เป็นแบบนี้
คุณโยเปลี่ยนนามสกุลมั้ย
พีเค : ตอนนี้ยัง อนาคตไม่แน่ แล้วแต่เค้าเลย
ทำไมกลัวการมีลูก
พีเค : ไม่ได้กลัวการมีลูก แต่พี่ไม่ชอบเด็ก โยก็ไม่อยากมี ต่างคนต่างไม่อยากมี งานที่ทำมา เงินที่ได้มา ก็เอาไปเที่ยวทั่วโลก
กลัวมั้ยว่าวันหนึ่งถ้าอยากมีลูกแล้วมีไม่ได้แล้ว
พีเค : ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ ค่แยไปอุปการะมาเลี้ยงก็ได้ ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยกับการมีลูก ไม่มีเลยจะดีกว่า โลกตอนนี้ไม่น่าอยู่เหมือนตอนที่เราโตมา เราเลยไม่อยากเอาเด็กคนหนึ่งมาเจออะไรแบบนี้
งานใหญ่ที่จะจัดขึ้นเมื่อไหร่
พีเค :ต้นเดือนกุมภาพันธ์
ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ พีเค ปิยะวัฒน์ https://youtu.be/PZdFXKjwURA