รวมพลคนยะลา...9 เดือน 9 ปี 49 วอนสันติสุขคืนสู่ยะลา

อังคาร ๒๙ สิงหาคม ๒๐๐๖ ๑๖:๑๗
กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--แม็กซิม่า คอลซัลแตนท์
เทศบาลนครยะลา ร่วมกับ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ และสมาคมชาวยะลา จัดแถลงข่าวงาน “รวมพลคนยะลา...สู่สันติสุข” กำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 9 กันยายนศกนี้ ณ ห้องชัยพฤกษ์ 1-2 หอประชุมกองทัพอากาศ ดอนเมือง กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการแสดงพลังชาวยะลาทั่วผืนแผ่นดินไทย และตอบแทนคุณแผ่นดินเกิด พร้อมทั้งช่วยเหลือและให้กำลังใจคนยะลาในพื้นที่
พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ผู้จัดงาน “รวมพลคนยะลา... สู่สันติสุข” กล่าวว่า “ปัญหาที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่งในขณะนี้คือ การที่คนยะลาและลูกหลานชาวยะลาไปอยู่จังหวัดต่างๆ ไม่กล้ากลับไปเยี่ยมบ้าน ในอนาคตใครจะกลับไปดูแลบ้านเมืองจังหวัดยะลา ผมคิดว่าการคืนสันติสุขสู่ยะลา เราควรใช้หลักของความเข้าใจอันดี ผมไม่เชื่อว่าอาวุธจะแก้ปัญหาได้ ในทางปฏิบัติ ผู้ที่เกี่ยวข้องควรจัดทำโครงการหรือกิจกรรมดีๆ ที่ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในชุมชน อาทิ เรื่องดนตรี กีฬา หรือการเข้าค่ายร่วมกันเป็นต้น เหล่านี้จะทำให้ช่องว่างระหว่างความแตกต่างเรื่องเชื้อชาติศาสนาการศึกษาต่างๆ ลดน้อยลง เราต้องพยายามดึงทุกอย่างกลับมาด้วยวิธีการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ตามหลักสมานฉันท์ และค่อยๆ ต่อยอดต่อไป เพื่อให้ในที่สุดความสงบสุขกลับคืนมา อาจะต้องใช้ระยะเวลายาวนานหน่อย แต่เราก็ต้องทำ”
ในขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ผู้มาร่วมงานแถลงข่าว กล่าวว่า “ผมเกิดที่ยะลา เป็นครูเป็นอาจารย์ เป็น ส.ส. เป็นประธานรัฐสภา เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฯลฯ ก็เพราะชาวยะลา เมื่อยะลามีทุกข์ เกิดปัญหา ผมอยากจะให้ยะลาสงบสุข ผมอยากจะทดแทนคุณแผ่นดินต่อไป เพราะบ้านเมืองที่เคยสวยงาม น่าท่องเที่ยว มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วโลก ขณะนี้เราถูกบดบังด้วยความไม่สงบ ดังนั้น จึงอยากให้ชาวยะลาช่วยกันคิดช่วยกันทำช่วยกันแสดงออกถึงพลังที่เรามี ว่าเราจะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ให้ยะลาของเรากลับมาสงบอีกครั้งเหมือนสมัยรุ่นปู่ย่าตายายของเรา และเราชาวยะลาจะสนับสนุนทุกคนและทุกฝ่ายที่จะช่วยให้ยะลาคืนสู่สันติสุขอีกครั้ง”
ด้าน ดร.รุ่ง แก้วแดง รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้เดินทางเข้าพื้นที่ยะลา บ่อยครั้ง เพื่อดำเนินการเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับมูลนิธิฯ กล่าวว่า “ยะลาไม่น่ากลัวอย่างที่พูดกัน ใครไม่เชื่อลงไปกับผมได้ ถ้ากลัวเดินตามหลังผมก็ได้ คืออยากให้มองวิกฤตเป็นโอกาสที่ดี ที่ทุกฝ่ายจะได้หันหน้ามาคุยมาคิดแก้ปัญหากัน เพื่อนำมาซึ่งความสงบสุขสู่ผืนแผ่นดินยะลา พร้อมทั้งสร้างสังคมยะลาที่ดี สิ่งสำคัญคือเรื่องของการให้โอกาสทางการศึกษา เพราะจากข้อมูลประเมินของกระทรวงศึกษาธิการนั้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกลุ่มที่มีผลประเมินการศึกษาในขั้นต่ำสุดของประเทศ ดังนั้น การจัดตั้งอุทยานการเรียนรู้ส่วนภูมิภาคที่ยะลาเป็นแห่งแรกนั้น จึงเป็นการจัดการกับวิกฤตทางการศึกษาอย่างเอาจริงเอาจัง ต่อไปเราอาจสามารถพัฒนายะลาให้เป็นนครแห่งการเรียนรู้ก็ได้ ผมเชื่อว่าผลแห่งความร่วมแรงร่วมใจกัน จะทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก้ไขได้”
ดร.สิริกร มณีรินทร์ ประธานกรรมการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ กล่าวว่า “โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าการศึกษาช่วยสร้างสันติสุขได้ เพราะการศึกษาจะนำไปสู่การมีสติปัญญา ก่อให้เกิดความรู้ ความเคารพ และความเข้าใจซึ่งกันและกัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้คนสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสมานฉันท์ และมีความสุข อย่างอุทยานการเรียนรู้ภูมิภาคที่แรกของเราที่จังหวัดยะลา เหตุผลที่เลือกจังหวัดยะลา เพราะเราเชื่อว่าการศึกษาสามารถมีส่วนร่วมในการดับไฟใต้ได้ และที่สำคัญเราอยากมอบอุทยานการเรียนรู้ที่จังหวัดยะลาให้เป็นของขวัญสำหรับเด็กๆ ยะลา เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขา”
สำหรับ นิกัลยา ดุลยา มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2004 สาวงามแห่งถิ่นยะลา กล่าวว่า “เกิดและเติบโตที่ยะลา จนจบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง จากนั้นเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาตรีและโท แต่เดิมยะลาเป็นจังหวัดที่สงบ ร่มรื่น ประชาชนอยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย เข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกัน เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น เชื่อว่าพี่น้องชาวยะลาจะเป็นผู้ที่นำสันติสุขกลับคืนมาดังเดิมได้ ส่วนตัวมีความเชื่อมั่นในพื้นที่ โดยได้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้เห็นมุมดีๆ ของยะลาที่หลายคนไม่เคยรู้ อาทิ เป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ โดยเฉพาะสำหรับภาคใต้ตอนล่าง, เมืองที่ความสวยงามทางทัศนียภาพ เป็นต้น ขณะที่การให้การศึกษากับเด็กวัยรุ่นยุคใหม่ ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เมื่อเยาวชนได้เรียนรู้ว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด มีความรู้มากขึ้นก็จะมีวิจารณญาณมากขึ้น ถ้ามีใครมาชักชวนให้เป็นแนวร่วมในทางที่ไม่ก่อให้เกิดความสงบกับประเทศ จะได้ไม่หลงผิด”
ส่วน สายฝน เชิงเชาว์ รองนายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าวว่า “สันติสุขจะกลับมาสู่ยะลาได้ ก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจ และการยอมรับซึ่งกันและกัน ความรักความเข้าใจกันนั้น เป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝังกันมาตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งจะได้จากคนในพื้นที่ เนื่องจากรู้จักกันมานานจะรักกันอยู่แล้ว ยิ่งคนใต้ก็เป็นที่รู้กันดี ว่าเป็นคนถิ่นนิยม รักพวกรักพ้อง ตลอดระยะเวลาที่เกิดความไม่สงบมีหลายหน่วยงานหลายองค์กรที่ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ครั้งนี้ พี่น้องชาวยะลาก็ควรจะสำนึกและย้อนกลับมามองหาจุดที่จะเข้ามาช่วยเหลือท้องถิ่นบ้าง สำหรับเรื่องการศึกษา ส่วนตัวเชื่อว่ามีส่วนช่วยนำสันติสุขมาสู่ยะลาอย่างแน่นอน แต่คงจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร แต่ถ้าร่วมมือกันอย่างจริงจังจากหลายๆ ฝ่าย อาจจะสำเร็จในระยะเวลาที่เร็วขึ้น”
วิทวัส สุนทรวิเนตร์ เสี่ยวีทีชาวยะลาดั้งเดิม กล่าวว่า “เกิดและเติบโตที่ตลาดเก่า รู้สึกเสียดาย ในฐานะที่เป็นลูกหลานของชาวยะลา เราไม่ค่อยจะได้รับรู้เรื่องราวข่าวสารดีๆ ของชาวยะลา จนเมื่อเกิดเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตแล้วถึงจะรู้ ภาพลักษณ์ของจังหวัดยะลาจึงถูกมองให้เป็นเมืองที่น่ากลัว อันตราย ดังนั้น เราชาวยะลาต้องช่วยกันนำสันติสุขกลับสู่บ้านเกิดให้ได้ ที่สำคัญคือเรื่องของความสมานฉันท์ ที่ต้องดำเนินการกันในระยะยาว ต้องปลูกฝังความคิด ไม่ให้มีการแบ่งแยกกันตั้งแต่ช่วงเยาวชน เริ่มทำตั้งแต่วันนี้ รวมพลรวมพลังกันให้เห็นว่าชาวยะลายังเป็นปึกแผ่น และไม่มีอะไรจะแบ่งแยกเราได้”
ปิดท้ายที่ อนันต์ มะทา รองนายกเทศบาลนครยะลา กล่าวว่า “วิธีการที่ดีที่สุด ผมว่านั่นคือการให้การศึกษาอย่างถูกต้องกับเด็กและเยาวชน ตลอดจนบุคคลทั่วไปให้มีความเข้าใจ ความรัก ความสามัคคี แม้จะต่างเชื้อชาติต่างศาสนากัน แต่เราเป็นคนยะลาเหมือนกันเป็นคนบ้านเดียวกัน สิ่งที่เราควรทำคือเราต้องรักกันให้มากที่สุด”
การจัดงาน “รวมพลคนยะลา...สู่สันติสุข” ในวันเสาร์ที่ 9 กันยายนศกนี้ ณ ห้องชัยพฤกษ์ 1-2 หอประชุมกองทัพอากาศ ดอนเมือง กรุงเทพฯ นั้น ภายในงานจะได้เพลิดเพลินกับการแสดงท้องถิ่นต่างๆ หลายชุดหลากวัฒนธรรมจากเยาวชนจังหวัดยะลากว่า 200 ชีวิต เช่น ดีเกฮูลู มโนราห์ เป็นต้น ร่วมทั้งชมการแสดงประกอบแสงสีเสียงเรื่อง ”เล่าเรื่องเมืองยะลา” และอื่นๆ อีกมากมาย บัตรราคา 700 บาท ผู้สนใจสามารถติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมหรือซื้อบัตรได้ที่สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (ทีเค ปาร์ค) ชั้น 8 อาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โซนดี โทร.0-2250-7620, สมาคมชาวยะลา (ห้วยขวาง) โทร.0-2691-6033 หรือที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เทศบาลนครยะลา โทร.0-7321-4898,0-7324-4038 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอลซัลแตนท์ จำกัด โทร 0-2434-8300
คุณสุจินดา, คุณแสงนภา, คุณปิติยา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย