นายศุภกิจ รวีอร่ามวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลบรารี่ เอสเตท จำกัด และบริษัทในเครือ เปิดเผยว่า แนวทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ดำเนินการพัฒนาอสังหา ทั้งบ้าน อาคารพาณิชย์ และคอนโดมิเนียม โดยให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกทำเลที่ดี การออกแบบ ดีไซน์โครงการโดยคำนึงถึงอัตลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ การกลั่นกรองทางความคิดอย่าง ละเอียด เพื่อกำหนดฟังค์ชั่นที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม การเลือกสรรวัสดุที่มีคุณภาพ เรียบง่าย ทันสมัย ใช้งานได้จริง ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้อยู่อาศัย โดยที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องผ่านการพัฒนาโครงการต่างๆ มากมายรวมมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านบาท มาตลอด 6 ปี
"เราเติบโตจากการพัฒนาอสังหาฯรูปแบบอาคารพาณิชย์ ขยายสู่ตลาดคอนโดมิเนียม บ้านและ ทาวน์โฮม เราค่อยๆเติบโตและขยายอย่างต่อเนื่อง เราพัฒนาโครงการที่เหมาะสมเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคให้มากที่สุด" นายศุภกิจกล่าว พร้อมกันนี้ยังกล่าวย้ำว่า ทำเล ที่ตั้ง นับว่าเป็นจุดเด่นสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่ Library Estate เล็งเห็น "โครงการที่เราพัฒนาไม่ได้ใหญ่มาก แต่เราใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะการเลือกทำเลที่ดี ทุกโครงการของเราคิดเผื่อผู้บริโภคเสมอว่าซื้อโครงการของเราแล้วในอนาคตจะมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้น เราคำนึงถึงทำเลที่มีแนวโน้มมูลค่าสูงขึ้นในอนาคต เช่น ย่านลาดพร้าว, เอกมัย เป็นต้น"
สำหรับในปี 2562 บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการตามแผนที่วางไว้ โดยแต่ละโครงการมีจุดเด่นที่ชัดเจนและแตกต่าง รวมถึงยังสะท้อนถึงการใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ ของคนเมืองอีกด้วย คือ โครงการเดอะคอมเมิร์ซ ประชาอุทิศ-สุขสวัสดิ์ (The Commerce Prachauthit – Suksawat) เป็นโครงการประเภทอาคารพาณิชย์และโฮมออฟฟิศ จำนวน 41 ยูนิต มูลค่ารวม 225 ล้านบาท, โครงการ ฟิโล เอกมัย 6 (Philo Ekkamai6) เป็นคอนโดมิเนียม จำนวน 78 ยูนิต มูลค่ารวม 365 ล้านบาท และล่าสุดเปิดตัว โครงการโนเวล เรสซิเดนซ์ ลาดพร้าว 18 (Novel Residence Ladprao 18) จำนวน 16 ยูนิต มูลค่ารวม 320 ล้านบาท โดยกำหนดเปิดตัว โครงการด้วยการจัดงาน VVIP DAYในวันที่ 9 พ.ย. 2562 นี้
ทั้งนี้ โครงการโนเวล เรสซิเดนซ์ ลาดพร้าว 18 บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านแฝดและทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่ง สามารถจอดรถได้ถึง 4 คัน จำนวน 16 ยูนิต บนเนื้อที่ 30 - 57 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 350 - 400 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น16 ล้านบาทขึ้นไป มีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ มีระบบรักษาความปลอดภัย รวมทั้งกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย คาดว่าเริ่มก่อสร้างประมาณ ไตรมาสที่ 4 ปี 2562 คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ ปี 2564
นายศุภกิจ ยังกล่าวด้วยว่า บริษัทได้เตรียมวางแผนเปิดตัวอีก 2 – 3 โครงการใหม่ โดยตั้งเป้าขยายมูลค่าโครงการถึง 1,000 ล้านบาทภายใน 2 ปี พร้อมกันนี้ยังมีแผนขยายธุรกิจ สู่รูปแบบธุรกิจภาคบริการ เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม ในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และกลุ่มโรงแรมนานาชาติ และในขณะเดียวกัน ก็มีแผนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในอนาคตด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ในปี 2562 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 400 ล้านบาท ตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ย 20 % ต่อปี และปัจจุบันมียอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน (Backlog) อยู่ที่ 150 ล้านบาท