ก.แรงงาน ชี้ชวนผู้ประกอบการ ร่วมเพิ่มผลิตภาพแรงงาน ปี 2563

อังคาร ๒๙ ตุลาคม ๒๐๑๙ ๑๐:๑๘
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เชิญชวนผู้ประกอบกิจการ เข้าร่วมพัฒนาทักษะแรงงานในโครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา ลดต้นทุน เพิ่มผลิตภาพแรงงาน ประจำปี 2563

นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน มีนโยบายเตรียมความพร้อมด้านกำลังแรงงาน ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีปฏิรูปคนทำงาน (Workforce transformation) รองรับกับเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงรวมถึงการให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการด้าน SME กพร. จึงจัดโครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงานสู่ SME 4.0 ขึ้น อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2562 มีสถานประกอบกิจการ กลุ่มโอทอป และวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมโครงการจำนวน 228 แห่ง พนักงานได้รับการพัฒนาทักษะให้มีความรู้เชิงวิเคราะห์ จำนวน 15,000 คน สามารถลดการสูญเสียในวงจรการผลิต และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 400 ล้านบาท ดังนั้น ในปี 2563 จึงตั้งเป้าหมายดำเนินการอีก 300 แห่ง พัฒนาทักษะพนักงานในสถาประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการอีกกว่า 15,000 คน โดยส่งทีมที่ปรึกษาเข้าไปศึกษากระบวนการผลิตและขั้นตอนในการทำงาน เพื่อหาจุดบกพร่องที่ส่งผลต่อต้นทุน แล้วนำมาวิเคราะห์หาวิธีการแก้ไข เป็นระยะเวลา 210 วัน พร้อมจัดอบรมให้ความรู้แก่พนักงานในสถานประกอบกิจการ ให้มีความรู้ในการวิเคราะห์งาน เพื่อแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ สามารถนำความรู้ไปขยายผลในการทำงานแผนกอื่นๆ ต่อไปด้วยโครงการนี้ จึงสามารถช่วยแก้ไขปัญหาของสถานประกอบกิจการได้ สามารถลดต้นทุน เพิ่มปริมาณการผลิตให้ทันต่อความต้องการของลูกค้าได้

คุณกิตติ์ธนัตถ์ ไชยวงค์ษา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคอิเด็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับ ผลิตและจำหน่ายเบาะรถยนต์ส่งออกต่างประเทศ ส่งออก 100% ไม่มีจำหน่ายในเมืองไทย มีพนักงานตัดเย็บกว่า 100 คน ได้ร่วมโครงการเพิ่มผลิตภาพแรงงานกับสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 19 เชียงใหม่เมื่อปีงบประมาณ 2562 มีเจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับ ระบบคลังสินค้า เนื่องจากหนังที่นำมาเย็บทำเบาะรถยนต์ มีหลายสี หลายขนาด จัดวางไม่เป็นระเบียบ เพราะพนักงานไม่มีความรู้ และไม่เข้าใจว่าควรจัดวางอย่างไร ทำให้เวลาจะนำไปใช้งาน ใช้เวลาในการค้นหานาน แต่พอมีเจ้าหน้าที่มาแนะนำ ให้ความรู้ วางผังระบบคลังสินค้าให้ใหม่การทำงานจึงรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังวิเคราะห์เกี่ยวกับกระบวนการผลิตเบาะรถยนต์ด้วยว่า ขั้นตอนไหนส่งผลต่อการผลิตล่าช้า และเกิดความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์ ซึ่งพบว่า ใบมีดในการตัดหนังขณะทำการเย็บ หากใบมีดที่ใช้ไม่คม ส่งผลให้การตัดชิ้นงานชำรุด การเย็บไม่เรียบร้อย บริษัทจึงมีการเปลี่ยนใบมีดของจักรเย็บเป็นประจำทุกวัน ทำงานการทำงานเร็วขึ้น อีกส่วนหนึ่งที่บริษัทได้รับประโยชน์อย่างมากในครั้งนี้คือ สพร.19 เชียงใหม่ ได้จัดอบรมให้ความรู้แก่พนักงานในการซ่อมบำรุงจักรเย็บ ทำให้ช่วยยืดอายุการใช้งาน รวมถึงสามารถแก้ไขปัญหาในการซ่อมจักรเย็บในเบื้องต้นได้ ไม่ต้องรอช่าง ในกรณีที่จักรเย็บขัดข้องเพียงเล็กน้อย เป็นต้น

"การดำเนินโครงการเพิ่มผลิตภาพนั้น กพร. ได้จัดเจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบกิจการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และพนักงานยังได้รับความรู้ เพื่อปรับกระบวนการทำงานให้ดีขึ้นอีกด้วย ผู้ประกอบกิจการที่สนใจ สามารถโทรสอบถามได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4 เพราะคุณคือคนที่จะได้รับประโยชน์จริงๆ" อธิบดี กพร. กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ