สอวช. รับลูก ครม.ศก. เร่งผลิตกำลังคนรองรับการลงทุน เดินเครื่องลิสต์ทักษะที่จำเป็นในอนาคต ดึงมหาวิทยาลัย สถาบันอบรมรัฐ – เอกชน ขึ้นทะเบียนคลอดหลักสูตร ชวนสถานประกอบการส่งบุคลากรร่วมอบรม พร้อมให้สิทธิ์ยกเว้นภาษีนิติบุคคล 2.5 เท่า

อังคาร ๒๙ ตุลาคม ๒๐๑๙ ๑๐:๕๐
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ถ.ศรีอยุธยา – ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มอบนโยบายในการประชุมหารือเรื่อง การผลิตและพัฒนากำลังคนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา โดยการประชุมหารือในครั้งนี้มีการนำเสนอนโยบายและทิศทางการพัฒนากำลังคน โดย ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผศ.ดร.วิโรจน์ ลิ้มไขแสง ประธานอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ผศ.ดร.เรืองเดช วงศ์หล้า ประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ และ นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเชิญมหาวิทยาลัยทั่วประเทศมาประชุมเพื่อรับทราบนโยบายการผลิตและพัฒนากำลังคนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในครั้งนี้ เพื่อเป็นการให้แต่ละมหาวิทยาลัยได้รับทราบความต้องการกำลังคนของตลาดและพิจารณาสัดส่วนการผลิตกำลังคนในปัจจุบันว่าเหมาะสมหรือไม่ ต้องปรับอย่างไร หลักสูตรเดิมสามารถคงอยู่ได้ แต่ต้องมีสัดส่วนที่เหมาะสม ในขณะเดียวกันภาคเอกชนเองก็ต้องเข้ามาร่วมผลิตกำลังคนร่วมกับมหาวิทยาลัย พูดคุยกันว่ามีความต้องการอย่างไร และมีแนวทางผลิตร่วมกันอย่างไร โดยมีบีโอไอ ช่วยดูแลสิทธิประโยชน์ทางภาษี กำลังคนที่ผลิตออกมาจะได้ตอบโจทย์ได้ตรงเป้า และขอมอบหมายให้ ทปอ. เป็นหน่วยงานกลางในการประสานมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเกี่ยวกับแนวทางการปรับตัวของมหาวิทยาลัยในการผลิตกำลังคนเพื่อตอบโจทย์ประเทศ

"หลายมหาวิทยาลัยมีทรัพยากร มีหลักสูตรพร้อม แต่ต้องดูว่าตอบโจทย์ความต้องการหรือไม่ บุคลากรที่ผลิตออกมามีคุณภาพสามารถใช้ได้ทันต่อความต้องการหรือไม่ ครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่ได้เชิญภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะจะได้รู้ความต้องการอย่างแท้จริง สิ่งที่เราทุกคนต้องทำในวันนี้คือ ตอนนี้ประเทศเรามีความต้องการกำลังคนเท่าไหร่ มหาวิทยาลัยมีศักยภาพในการผลิตกำลังคนเท่าไหร่เพียงพอหรือไม่ และต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนอย่างไร และนำทุกอย่างมาแมชชิ่งกัน เพื่อจะได้การผลิตและพัฒนากำลังคนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ หรือ Manpower Planning ใน 5 ปี" ดร.สมคิด กล่าว

ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายด้านการพัฒนากำลังคนตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ โดยเฉพาะการตอบโจทย์ให้ทันต่อความต้องการเร่งด่วนด้านการลงทุน ซึ่งการรอกำลังคนที่จบวุฒิปริญญาจะไม่ทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ตลอดจนทักษะที่ได้จากวุฒิการศึกษาอาจตอบโจทย์ได้ไม่ครอบคลุมต่อความต้องการของสถานประกอบการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ซึ่งมีหน้าที่ดูแล และพัฒนากำลังคน จึงมีนโยบายในการพัฒนากำลังคนกลุ่ม Non-Degree เพื่อเป็นการ Upskill, Reskill รองรับการลงทุน เพื่อสร้างบุคลากรคุณภาพสูง 100,000 คน ที่พร้อมสำหรับความต้องการของอุตสาหกรรมทั้งในพื้นที่อีอีซี นอกพื้นที่อีอีซี ผู้ประกอบการ อุตสาหกรรม S-curve และอุตสาหกรรม BCG ทั้งนี้ จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 3 ที่ประชุมได้มอบหมายให้ อว. และ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) กำหนดหลักสูตรและสาขาการศึกษาเป้าหมาย เพื่อให้ภาคเอกชนขอสิทธิประโยชน์ทางภาษี 2.5 เท่า โดยต้องเป็นหลักสูตรที่ อว. และ อีอีซีรับรอง และต้องไม่ซ้ำกับมาตรการสิทธิประโยชน์ภาษี 2 เท่าที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ มาตรการนี้จะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีถึง 31 ธ.ค. 63 แต่ไม่จำเป็นต้องฝึกอบรมให้เสร็จภายในปี 63

"หลังจากที่ อว. ได้รับมอบหมายให้กำหนดหลักสูตรและสาขาการศึกษาเป้าหมาย เพื่อให้ภาคเอกชนขอสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้นั้น ทาง สอวช. อยู่ระหว่างเร่งมือในการจัดทำรายละเอียดทักษะที่จำเป็นในอนาคต (Future Skill List) โดยจัดทำรายละเอียดทั้งในส่วนตำแหน่งงาน และสมรรถนะ คุณลักษณะที่จำเป็น (Competency) ของตำแหน่งงานนั้นๆ โดยเมื่อจัดทำรายละเอียดเสร็จ ก็จะมีการเปิดรับหน่วยงาน และสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนที่สามารถจัดหลักสูตรและสาขาการศึกษาเป้าหมายตามที่กำหนดมาลงทะเบียนยื่นคำขอ เพื่อให้ อว. พิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยงาน RTO (Registered Training Org.) และรับรองหลักสูตร เมื่อสถานประกอบการส่งบุคลากรมาอบรมหลักสูตรตามที่ได้รับการรับรอง สถานประกอบการสามารถขอยกเว้นภาษีนิติบุคคลประเภทค่าใช้จ่ายฝึกอบรมได้ 2.5 เท่า จากกรมสรรพากร ส่วนสถานประกอบการที่มีความต้องการจ้างงานใหม่บุคลากรทักษะสูงด้าน STEM ก็สามารถแจ้งตำแหน่งงาน และโปรไฟล์บุคลากรที่ต้องการจ้างงานมายัง อว. เพื่อพิจารณารับรอง และเมื่อรับรองแล้วสถานประกอบการสามารถขอยกเว้นภาษีนิติบุคคลประเภทค่าใช้จ่ายการจ้างงานใหม่บุคลากรทักษะสูงด้าน STEM ได้ 1.5 เท่า จากกรมสรรพากร โดยการดำเนินงานลักษณะนี้จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดการ Upskill Reskill ให้กับบุคลากรบริษัทให้มีสมรรถภาพในการทำงานที่ตอบโจทย์ตามการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และยังเป็นแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้กับบริษัทได้อีกทางหนึ่งด้วย" ดร.กิติพงค์ กล่าว

สำหรับแนวทางในการพัฒนากำลังคนกลุ่ม Non-Degree เกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาในอนาคตนอกเหนือจากหลักสูตรการศึกษาเพื่อปริญญา โดย สอวช. มีแนวคิดในการจัดทำเป็น Sandbox ในลักษณะการพัฒนากำลังคนตามความต้องการ (Customized choices) โดยมีสถานประกอบการและมหาวิทยาลัยร่วมกับพัฒนาโมดูล/หลักสูตร และเสนอให้ อว. พิจารณารับรอง ซึ่งสถานประกอบการ หรือบุคคลทั่วไปสามารถเข้ารับการอบรมหลักสูตรใดที่ได้รับการรับรองได้ และยังสามารถสะสมหน่วยกิต (credit bank) ตามเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อขอรับปริญญาได้ อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าว อยู่ระหว่างการขึ้นรูป ซึ่งต้องคำนึงถึงกลไกต่างๆ ที่จะเข้ามารองรับ ทั้งระบบสะสมหน่วยกิต (credit bank) ระบบรับรองหน่วยงาน/หลักสูตรฝึกอบรม และระบบเงินสมทบสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ

นอกจากนี้ สอวช. ยังได้เสนอแนวคิดดำเนินการเพื่อรองรับการพัฒนากำลังคนตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ อาทิ โครงการ Reskill/Upskill สำหรับบุคลากร SME และผู้ประกอบการอาชีพอิสระ ที่จะสนับสนุนในรูปแบบ Training Coupon ผ่านหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ซึ่งบุคลากร SME และผู้ประกอบการอาชีพอิสระสามารถขอรับ Training Coupon ซึ่งเป็นการสนับสนุนค่าใช้จ่ายการอบรมได้จาก บพค. เพื่อใช้ในการเข้ารับการอบรมหลักสูตรต่างๆ ในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันอบรมที่ได้รับการรับรองจาก อว. ซึ่งมหาวิทยาลัย หรือสถาบันอบรมก็จะได้รับเงินสนับสนุนจาก อว. ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด โครงการส่งเสริม Corporate Academy โครงการที่ส่งเสริมให้สถานประกอบการโดยเฉพาะสถานประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกิด Academy ในสถานประกอบการ โดยทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย เพื่อสร้างบุคลากรคุณภาพระดับสูงในภาคอุตสาหกรรมให้มีความสามารถในการดำเนินโครงการด้านนวัตกรรม และเพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมให้สามารถสร้างนวัตกรรมจากภายในองค์กรได้ โดยมี บีโอไอ เป็นหน่วยงานที่จะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่หน่วยงานที่มี Academy ในสถานประกอบการ และ อว. มีหน้าที่ในการอุดหนุนหลักสูตรผ่านการสนับสนุนค่าใช้จ่ายหลักสูตรอบรมส่วนหนึ่งให้มหาวิทยาลัยที่ทำงานร่วมกับ Academy

อย่างไรก็ตาม แนวคิดการผลิตและพัฒนากำลังคนเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศข้างต้น อว. ไม่สามารถขับเคลื่อนเพียงหน่วยงานเดียวได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สกสว. ที่จะช่วยดูแลในการจัดสรรงบประมาณสนับสนุน สวทช. ที่จะช่วยทำหน้าที่บริหารจัดการโครงการ บีโอไอ หน่วยงานที่จะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ภาคอุตสาหกรรม ภาคอุตสาหกรรม ที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและสนับสนุนค่าใช้จ่ายการฝึกอบรมและการบริหารจัดการสำหรับการสร้างทักษะการบริหารจัดการโครงการนวัตกรรม และภาคการศึกษา ที่ทำหน้าที่จัดระบบการศึกษาที่สอดคล้องต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม โดยจะมี สอวช. ทำหน้าที่ในการพัฒนาโครงการนำร่องและเสนอนโยบาย

ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ดร.กิติพงค์ ได้นำเสนอประเด็นสำคัญ เรื่อง นโยบายการบริหารงานวิจัย ในการประชุมหารือแนวทางการบริหารงานวิจัยและนวัตกรรมของประเทศและการปฏิรูปอุดมศึกษา ร่วมกับ ศ.นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ที่นำเสนอในประเด็น การจัดสรรงบประมาณงานวิจัยและการบริหารงบประมาณด้าน ววน. ผ่าน Program Management Unit และ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ที่นำเสนอในประเด็น แนวทางการสนับสนุนทุนวิจัยของ วช. โดยได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีว่าการ อว. มอบนโยบาย และมีอธิการบดี รองอธิการบดีฝ่ายแผนงาน รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศร่วมประชุม ณ ห้องประชุมพาลาเดียมฮอล เอ ชั้น 11 โรงแรม The Berkeley Hotel Pratunam โดย ดร.กิติพงค์ เปิดเผยถึงข้อมูลตัวเลขงบประมาณของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ได้รับการจัดสรรในปีงบประมาณ 2563 ว่า อว. ได้รับการจัดสรรงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 24,945 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ เป็นการจัดสรรงบประมาณเข้าตรงหน่วยงาน 50% แบ่งเป็น ยุทธศาสตร์พัฒนาศักยภาพวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ลงไปยังหน่วยงานในระบบ ววน. จำนวน 4,700 ล้านบาท ยุทธศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมที่งบประมาณส่งตรงไปที่หน่วยงานในระบบ ววน. 7,741 ล้านบาท และเป็นการจัดสรรงบประมาณเข้ากองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมอีก 50% หรือคิดเป็น 12,555 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณที่เข้ากองทุนนี้ จะแบ่งเป็นงบประมาณที่ผ่านกองทุนและส่งไปยังหน่วยงานในระบบ ววน. 4,171 ล้านบาท และงบประมาณผ่านกองทุนสำหรับโครงการ Flagship ที่จะมีหน่วยบริหารทุนด้านต่างๆ ดูแลอีกจำนวน 8,384 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการ Flagship ปี 2563 ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจำนวน 8,384 ล้านบาทนั้น จำแนกได้ตาม 5 แพลตฟอร์ม ประกอบด้วย 1. การพัฒนากำลังคนและสถาบันความรู้ 2. การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ท้าทายของสังคม 3. การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน 4. การวิจัยและสร้างนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่และลดความเหลื่อมล้ำ และ 5. การปฏิรูปการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.)

นอกจากนี้ ได้เปิดเผยถึง 3 หน่วยบริหารและจัดการทุนใหม่ในระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ได้มีมติให้จัดตั้งหน่วยบริหารและจัดการทุนเฉพาะด้านภายใต้สภานโยบายขึ้นอีก 3 หน่วย ใน สอวช. ประกอบด้วย หน่วยด้านการพัฒนาด้านกำลังคน ที่จะเรียกว่า หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) หน่วยด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ที่จะเรียกว่า หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และหน่วยด้านการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่มุ่งเศรษฐกิจฐานรากเป็นหลัก ที่จะเรียกว่า หน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๒ เม.ย. แจกจริง! แบรนด์ซุปไก่สกัดส่งมอบรถเทสล่า มูลค่า 1.649 ล้านบาท ให้ผู้โชคดี ในแคมเปญ ดื่มแบรนด์ สแกนเลขในขวด ปี
๐๒ เม.ย. GFC ตอบโจทย์ทุกความปลอดภัยเรื่องอาคาร - ถังแช่แข็งตัวอ่อน เปิดให้บริการสำหรับผู้มีบุตรยากตามปกติครบ 3
๐๒ เม.ย. KJL ลุยภาคใต้! จัดใหญ่สัมมนา 'รวมพลคนไฟฟ้า ON TOUR' ที่ภูเก็ต
๐๒ เม.ย. แว่นท็อปเจริญ จับมือ กรมกำลังพลทหารบก แนะแนวการศึกษาและอาชีพ สร้างโอกาสแก่ทหารกองประจำการและครอบครัว
๐๒ เม.ย. AnyMind Group คว้ารางวัล Gold ในงาน Martech Innovation Awards 2025
๐๒ เม.ย. โชว์พลังดีไซน์ไทยในงาน STYLE Bangkok 2025 รวมแบรนด์ดาวรุ่งจาก Talent Thai และ Designers' Room ที่คุณไม่ควรพลาด
๐๒ เม.ย. ธนาคารกสิกรไทย จัดสัมมนาใหญ่ K WEALTH Forum: เจาะลึก 5 ปัจจัยเปลี่ยนเกมการลงทุนโลก
๐๒ เม.ย. PSP ปิดดีลทุ่ม 409.5 ลบ. ถือหุ้นใน รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง (RE) ปักหมุดธุรกิจสู่ศูนย์กลางรีไซเคิลสารเคมีแห่งภูมิภาค
๐๒ เม.ย. กลุ่มซีไอเอ็มบี เปิดรับสมัครสอบชิงทุน CIMB ASEAN Scholarship 2025 ทุนเรียนต่อปริญญาตรี - ปริญญาโท พร้อมโอกาสร่วมงานกับกลุ่มซีไอเอ็มบี
๐๒ เม.ย. ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค เปิดพิกัดจุดสรงน้ำพระ เสริมสิริมงคลกับเทศกาล สงกรานต์อิ่มบุญ