ยนตรกรรมสั่งผลิตพิเศษ โรลส์-รอยซ์ ครองใจลูกค้าทั่วโลก ยอดขายพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

พุธ ๓๐ ตุลาคม ๒๐๑๙ ๑๐:๐๖
- ความต้องการของตลาดที่มีต่อยนตรกรรมสั่งผลิตพิเศษหรือ Bespoke ของโรลส์-รอยซ์ เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์

- ทีม Bespoke Collective ของโรลส์-รอยซ์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงฝีมือการตีความรสนิยมของลูกค้าทั่วโลกออกมาเป็นผลงานที่ไม่ธรรมดา

- ในขณะที่ตัวเลขยนตรกรรมสั่งผลิตที่ Home of Rolls-Royce ในเมืองกู้ดวูดเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน มียนตรกรรมแฟนธอม 3 คันที่อาจกล่าวได้ว่าเป็นตัวแทนของเทรนด์ความนิยมยนตรกรรมสั่งผลิตพิเศษในปัจจุบัน

ทักษะงานฝีมือของทีม Bespoke Collective ของโรลส์-รอยซ์ได้กลายเป็นที่ต้องการของลูกค้าทั่วโลกมากขึ้นอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ในบรรดาผลงานทั้งหมด ยังมีตัวอย่างยนตรกรรม Bespoke ที่น่าสนใจ ได้แก่แฟนธอมอันสง่างาม 3 คันล่าสุด ที่เพิ่งออกจาก Home of Rolls-Royce ในเมืองกู้ดวูด เวสต์ ซัสเซ็กซ์ ยนตรกรรมชิ้นเอกที่รังสรรค์ขึ้นด้วยมือเหล่านี้ได้สะท้อนความต้องการที่ชัดเจนและรสนิยมส่วนบุคคลของลูกค้าทั่วโลก สุนทรียะของการออกแบบภายในห้องโดยสารได้รับอิทธิพลจากลักษะการออกแบบทางสถาปัตยกรรม ในขณะที่ความหลากหลายทางวัฒนธรรมผสมผสานเข้ากับเรื่องราวต่างๆ หลอมรวมกลายเป็นผลงานยนตรกรรมทั้ง 3 คันนี้

มร. ทอร์สตัน มูเลอร์-ออทเวิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส กล่าวว่า "ทีมนักออกแบบ Bespoke ของเราได้ตีความรสนิยมของลูกค้าทั่วโลกจนกลายมาเป็นผลงานศิลปะชิ้นเอก ฉีกกรอบขนบของโลกยานยนต์ เพื่อเขียนนิยามความเป็นไปได้ของงานฝีมือระดับลักซ์ชัวรีขึ้นมาใหม่ ซึ่งแฟนธอมทั้ง 3 คันมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน แต่ละคันแสดงให้เห็นถึงอิสระในการออกแบบและการสั่งผลิตพิเศษสำหรับลูกค้าของแบรนด์โดยเฉพาะ"

ทีม Bespoke Collective ของโรลส์-รอยซ์ ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มนักออกแบบ ช่างศิลป์ ช่างฝีมือ และวิศวกรที่ประจำอยู่ ณ ศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศในการผลิตยนตรกรรมลักซ์ชัวรีระดับโลก (Global Centre of luxury Luxury Manufacturing Excellence) ของโรลส์-รอยซ์ในเมืองกู้ดวูด ได้รับมอบหมายให้เนรมิตไอเดียความคิดสร้างสรรค์ของลูกค้าให้กลายเป็นจริง ซึ่งบริการในส่วนนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ และในวันนี้ ยอดสั่งจองยนตรกรรม Bespoke ของโรลส์-รอยซ์ได้มาถึงระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน ลูกค้าของแบรนด์ปรารถนาที่จะแสดงออกถึงตัวตนของพวกเขาผ่านสัญลักษณ์แห่งความหรูหราที่แท้จริง ซึ่งต้องเป็นสัญลักษณ์ที่ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะบุคคลและถูกสรรสร้างขึ้นอย่างไร้ที่ติ

ภารกิจที่ต้องก้าวข้ามขีดจำกัดของความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เสมอ ทำให้แบรนด์สามารถตอบสนองและยกระดับความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง เรื่องราวมากมายถูกถ่ายทอดและบอกเล่าผ่านชุดสีโทนหรูหราของทั้งภายนอกและภายในตัวรถ ในขณะที่หัวใจสำคัญของแฟนธอมอย่าง Gallery ที่ติดตั้งอยู่เบื้องหลังกระจกบริเวณคอนโซลด้านหน้า ได้มอบโอกาสให้ลูกค้าในการอวดโฉมงานศิลปะอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ภายในยนตรกรรมของพวกเขา

จอห์น เบคลีย์ (John Beckley) หัวหน้าฝ่ายยนตรกรรมสั่งผลิตพิเศษ (Bespoke) ของโรลส์-รอยซ์ กล่าวว่า "ฝ่าย Bespoke ของเราทำงานอย่างหนักเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เราไม่เคยพบความต้องการในการปรับแต่งยนตรกรรม Bespoke มากเท่านี้มาก่อน แฟนธอมทั้ง 3 คันนี้ใช้เวลาหลายปีในการผลิต ซึ่งนับเป็นความสำเร็จและเป็นเงาสะท้อนถึงทักษะอันเชี่ยวชาญของทีม Bespoke Collective ในการตีความและเข้าถึง 'วิสัยทัศน์' ของลูกค้าได้อย่างแท้จริง"

โรลส์-รอยซ์ แฟนธอม คือเครื่องชี้วัดรสนิยมและความปรารถนาของเหล่าบุคคลผู้มั่งคั่งและทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ปัจจุบัน แฟนธอมซึ่งได้ถูกพัฒนามาถึงเจเนอเรชันที่ 8 ได้ผ่านรูปแบบการดีไซน์และการสั่งผลิตพิเศษที่หลากหลาย ซับซ้อนและเหนือความคาดหมายที่สุดเท่าที่เคยมีมา นับเป็นยนตรกรรมซึ่งเป็นเลิศที่สุดแห่งฝีมือหัตถศิลป์ในโลกแห่งความหรูหรา

แฟนธอมแห่งกาลเวลา (Horology Phantom)

ทีมนักออกแบบของโรลส์-รอยซ์ได้รับมอบหมายให้เดินทางท่องโลกเพื่อเสาะแสวงหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่จะสร้างความพึงพอใจและความตื่นเต้นให้กับเหล่าบุคคลชั้นนำของโลก และด้วยเหตุนี้ นักออกแบบคนหนึ่งจาก Home of Rolls-Royce จึงเดินทางไปยัง La Chaux-de-Fonds ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อพบกับปรมาจารย์ด้านศาสตร์แห่งการสร้างเครื่องบอกเวลา เพื่อทำความเข้าใจความละเอียดซับซ้อนและการเคลื่อนไหวอันจำเพาะเจาะจงของนาฬิการ่วมสมัย นาฬิกาเหล่านี้นับเป็นของสะสมล้ำค่าและหายากซึ่งมักพบได้ในคอลเลกชันของลูกค้าโรลส์-รอยซ์ ความงดงามของ

ของมันได้สร้างความตื่นเต้นสะกดสายตาทีม Bespoke Collective ของแบรนด์

แฟนธอมแห่งกาลเวลา (Horology Phantom) ได้ถูกแต่งแต้มด้วยลวดลายที่สื่อถึงกลไกการทำงานของนาฬิกาชั้นสูง เฉดสีเงินและทองถูกวางทาบตัดกับสีทูโทน คือกันเมทัล (Gunmetal) และดำ อยู่บนตัวถังรถ บ่งบอกเป็นนัยถึงธีมโดยรวมของยนตรกรรมคันนี้ โค้ชไลน์คู่สีทองและสีเงินที่ถูกเพนท์ด้วยมือข้างตัวถังมาจากการออกแบบสุดวิจิตรที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกา ในขณะที่สปิริต ออฟ เอ็กสตาซี สัญลักษณ์ที่เฉิดฉายอยู่บนฝากระโปรงยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ทุกคันมานานกว่าศตวรรษ ถูกชุบด้วยทองคำ 24 กะรัต

ทันทีที่เปิดประตู สายตาจะถูกดึงดูดไปยังแผงหน้าปัดภายในตัวรถ ซึ่งฝังสเตนเลสและทองเป็นลวดลายสลักที่ใหญ่ที่สุดที่เคยถูกผลิตขึ้นสำหรับแฟนธอมถูกอวดโฉมอยู่อย่างภาคภูมิอยู่บริเวณตำแหน่งใต้ Gallery ซึ่งแต่งด้วยสเตนเลสสตีลหลายเลเยอร์ อันสื่อถึงชิ้นส่วนโลหะหลายชั้นที่เป็นองค์ประกอบอันซับซ้อนของระบบนาฬิกา ลวดลายจากการฝังสเตนเลสและทองคำนี้ สะท้อนถึงแบบแผนการเคลื่อนไหวของเข็มนาฬิกา ส่วนเรือนนาฬิกาโรลส์-รอยซ์ในกรอบสีเงินแกะสลักด้วยเทคนิคกิโยเช (Guilloche) ถูกติดตั้งอย่างโดดเด่นอยู่เคียงคู่ Gallery

แฟนธอมแห่งจิตวิญญาณดิจิทัล (Digital Soul Phantom)

แฟนธอมแห่งจิตวิญญาณดิจิทัล (Digital Soul Phantom) คือผลงานจากการเรียนรู้ผ่านงานฝีมือจิตรกรรมร่วมสมัย เป็นการผสมผสานระหว่างพลังกายและความมุมานะของมนุษย์กับดีไซน์ที่สร้างขึ้นโดยคอมพิวเตอร์ ผลลัพธ์ที่ได้คือยนตรกรรมแห่งความเป็นหนึ่งในด้านการออกแบบและสั่งผลิตพิเศษเฉพาะบุคคล เปรียบเสมือนการเฉลิมฉลองต่อเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้เพื่อก่อให้เกิดงานศิลปะที่ไม่ซ้ำใคร

แฟนธอมคันนี้มาในรูปแบบตัวถังสีทูโทน โดยด้านบนเป็นสีคาร์รารา ไวท์ (Carrara White) และด้านล่างเป็นสีสโมคกี ควอตซ์ (Smokey Quartz) ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยโค้ชไลน์สีทองด้านข้าง และสร้างความโดดเด่นสะกดสายตาด้วยสัญลักษณ์สปิริต ออฟ เอ็กสตาซีชุบทองคำ การออกแบบภายในตัวรถสอดคล้องกับโทนสีด้านนอกตัวถัง หนังสีซีเชลล์ (Seashell) และสีดาร์ก สไปซ์ (Dark Spice) ถูกเน้นด้วยการปักเย็บขอบทองและลวดลายโมโนแกรมสัญลักษณ์ 'RR' ของโรลส์-รอยซ์ ส่วน Gallery ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของยนตรกรรมอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่ง Gallery นี้ถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับทอร์สตัน แฟรงค์ (Thorsten Franck) นักออกแบบผลิตภัณฑ์ชาวมิวนิก แล้วได้ถ่ายทอดอัตลักษณ์เฉพาะบุคคลด้วยชั้นเชิงที่โดดเด่นและแตกต่าง

ข้อมูลดิจิตอลถูกถ่ายทอดออกมาโดยใช้เทคนิคการพิมพ์สามมิติ (3D printing) และกลายเป็นชิ้นส่วนสเตนเลสสตีลพิมพ์สามมิติที่ใหญ่ที่สุดที่เคยถูกใช้ในการผลิตรถยนต์ ชิ้นส่วนสเตนเลสสตีลนี้ถูกชุบด้วยทองคำ 24 กะรัต น้ำหนักเกือบ 50 กรัม ทำให้เกิดผลงานอันโดดเด่นอวดโฉมอยู่ภายใน Gallery ที่เชื่อมโยงทั้งโลกแห่งจิวเวลรี ประติมากรรม และการออกแบบ

ทีม Bespoke Collective ที่ Home of Rolls-Royce ยังได้ต่อยอดด้วยการนำทองคำมาตกแต่งบริเวณส่วนสำคัญภายในห้องโดยสารเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ ซึ่งใช้เวลากว่า 3 เดือนในการรังสรรค์ แผ่นทองคำถูกจัดวางเป็นลวดลายโดยอาศัยเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในโลกอย่างดวงตามนุษย์ และถูกติดตั้งด้วยมือบนไม้ยูคาลิปตัสรมควันบริเวณประตูหลังและโต๊ะปิกนิกของแฟนธอม ตามมาด้วยฝาลำโพงชุบทองซึ่งปิดท้ายสุนทรียภาพแห่งความงามได้อย่างลงตัว

แฟนธอมแห่งอ่าวอาหรับ (Arabian Gulf Phantom)

ตะวันออกกลางเป็นภูมิภาคที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแหล่งแรงบันดาลใจที่นำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ ตั้งแต่สถาปัตยกรรมร่วมสมัยอันอาจหาญ ไปจนถึงงานฝีมือที่คงไว้ซึ่งความงามตามประเพณี นับเป็นขุมทรัพย์แรงบันดาลใจอันไร้ที่สิ้นสุด

คอนเซ็ปต์ 'แฟนธอมแห่งอ่าวอาหรับ' ได้นำเอาสีสันที่มีชีวิตชีวาและเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับการดำน้ำเก็บไข่มุกตามประวัติศาสตร์ตะวันออกกลางมาประยุกต์เข้าด้วยกัน เฉดสีเขียวน้ำทะเล (Turchese) ภายนอกตัวรถหวนให้นึกถึงภาพผืนน้ำสีสันสดใสในความทรงจำ ในขณะที่สีแอนดาลูเชียน ไวท์ (Andalusian White) เปรียบดังตัวแทนความบริสุทธิ์ของไข่มุกธรรมชาติและเรื่องราวที่เล่าขานสืบกันมา ลวดลายสีอาร์กติก ไวท์ (Arctic White) ข้างตัวรถเผยให้เห็นลวดลายหอยทะเลเพนท์ด้วยมือ ซึ่งถูกนำมาใช้ตกแต่งอย่างมีศิลปะเช่นเดียวกันกับด้านในห้องโดยสาร

เมื่อเปิดประตูรถ จะพบกับ Gallery ที่มอบความรู้สึกของการเคลื่อนไหวอย่างสง่าผ่าเผย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากการเคลื่อนไหวของมหาสมุทร งานศิลปะที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างโรลส์-รอยซ์และศิลปินชาวอังกฤษ เฮเลน เอมี่ เมอร์เรย์ (Helen Amy Murray) ได้หลอมรวมแก่นของยนตรกรรมไว้อย่างครบถ้วน นาฬิกาประดับมุกถูกติดตั้งบน Gallery สีเขียวน้ำทะล (Turchese) สดใส มอบความแตกต่างอันสมบูรณ์แบบให้กับความงดงามในเชิงประติมากรรม ลวดลายพลิ้วไหวประดุจเส้นไหมพาดผ่าน Gallery ราวกับจะโอบล้อมหินอันล้ำค่าบนนาฬิกาเรือนนี้

เมื่อเอนกายลงบนเบาะหลังเพื่อดื่มด่ำประสบการณ์ความหรูหรา จะสังเกตเห็นลวดลายประดับรูปหอยทะเลสีสันคุมโทนได้อย่างเด่นชัดบนประตูหลังของแฟนธอม นอกจากนั้นยังมีลายหอยทะเลบนไม้ประดับมุกอันวิจิตรบรรจงบนแผงโต๊ะปิกนิกหลังเบาะ ซึ่งเมื่อถูกดึงออกมาใช้งาน จะเผยให้เห็นจอส่วนตัวซึ่งมอบความรู้สึกและประสบการณ์อันรื่นเริงเสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ ชิ้นส่วนไม้ประดับมุกอันละเอียดปราณีตจะปรากฏโฉมบริเวณด้านบนของโต๊ะ ราวกับงานศิลปะที่ถูกซ่อนไว้ได้ถูกค้นพบ

แถบสีขนาดใหญ่ที่เข้ากันอย่างลงตัวกับหนังสีเขียวน้ำทะเล (Turchese) ถูกวาดพาดผ่านหลังคาที่กว้างขวางของแฟนธอม โอบล้อมผู้โดยสารด้วยบรรยากาศราวกับรังไหม พร้อมด้วยเพดานห้องโดยสารที่ตกแต่งเป็นแสงดวงดาว Starlight Headliner อันประกอบไปด้วยเส้นใยนำแสงไฟเบอร์ออพติคที่ติดตั้งด้วยมือถึง 1,344 จุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version