ภาพข่าว: “ประเทศไทยได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือเป็นระดับ A-”

ศุกร์ ๐๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๑:๓๗
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2562 บริษัท Rating and Investment Information, Inc. (R&I) ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ปรับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Issuer Credit Rating) จากระดับ BBB+ เป็น A- และคงมุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook) ที่ระดับเสถียรภาพ (Stable Outlook)

ทั้งนี้ R&I ได้ให้เหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยได้รับการปรับอันดับความน่าเชื่อถือว่ามาจากปัจจัยหลัก 4 เรื่อง กล่าวคือ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการดำเนินมาตรการเชิงรุกในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูงและการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อีกทั้งมีการดำเนินการในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและผลักดันให้เกิดการลงทุนจากในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้ประเทศมีศักยภาพในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว และหลุดพ้นจากการติดกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap)

การเกินดุลการค้าและดุลบริการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีสาเหตุหลักจากรายได้ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง จึงทำให้ประเทศไทยมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง และมีระดับเงินสำรองระหว่างประเทศเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศ ดังนั้น ประเด็นเรื่องสภาพคล่องในสกุลเงินตราต่างประเทศจึงไม่น่ากังวล

การมีพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ซึ่งกำหนดกรอบวินัยการเงินการคลัง ทำให้การบริหารจัดการด้านการคลังมีประสิทธิภาพและมีรูปธรรมชัดเจนขึ้น โดยมีการกำหนดเพดานหนี้สาธารณะไว้ในกฎหมายอย่างชัดเจน และเนื่องจากสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ ดังนั้น จึงไม่มีความน่ากังวลทั้งในประเด็นด้านความสามารถในการระดมทุนและความเสี่ยงทางการคลัง

ด้านการเมืองของประเทศไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น จากการที่ประเทศไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการและสามารถดำเนินนโยบายด้านเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดย R&I ยังคงให้ความสำคัญกับประเด็นทางการเมือง โครงสร้างของการกระจายรายได้ระหว่างเขตเมืองและชนบท รวมทั้งสภาพแวดล้อมทางการเมืองอื่นๆ ที่จะสนับสนุนการดำเนินมาตรการทางเศรษฐกิจของรัฐบาลในอนาคตต่อไป

ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะกล่าวเพิ่มเติมว่า "ในปี 2562 ประเทศไทยได้รับการปรับอันดับความน่าเชื่อถือดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Moody's และ Fitch Rating ได้ปรับมุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook) ให้กับประเทศไทย จากระดับ "เสถียรภาพ (Stable Outlook)" เป็น "เชิงบวก (Positive Outlook)" ซึ่งการได้รับการปรับอันดับความน่าเชื่อถืออย่างต่อเนื่องนี้จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังจะช่วยให้การระดมทุนจากต่างประเทศของรัฐบาลและเอกชนไทยมีต้นทุนที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย"

ทั้งนี้ R&I ได้ทำการจัดอันดับความน่าเชื่อถือให้กับประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา โดยการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจะพิจารณาจากองค์ประกอบ 5 ด้าน อันได้แก่ ภาวะทางการคลัง (Fiscal conditions) โครงสร้างการระดมทุน (Funding structure) ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ (Economic fundamentals) ปัจจัยพื้นฐานทางสังคมและการเมือง (Socio-political fundamentals) และความสามารถในการบริหารจัดการนโยบาย (Policy management capacity)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๔๒ โฮมโปรฯ ร่วมกับ UMI ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม นำกระเบื้องชำรุดมาผลิตใหม่
๑๕:๒๐ อินดิจี (IDG) นำเสนอข้อมูล ก.ล.ต. และ ตลท. เดินหน้า IPO 28 ล้านหุ้นใน mai ตอกย้ำที่ปรึกษา Digital Transformation
๑๕:๓๖ XO เดินหน้าซอสส่งออกปี 68 เจาะทวีปยุโรป โฟกัสตลาดมาร์จิ้นสูง ด้านไลน์การผลิตใหม่คาดเดินเครื่องเม.ย.นี้
๑๕:๕๘ ตามติดโร้ดแมป 'LINE ประเทศไทย' ในงาน #LCT25 สานต่อ Open Platform ขยายโอกาสนักพัฒนาไทย พาธุรกิจโต
๑๕:๐๘ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ยกระดับทักษะพนักงานนวดและสปา มุ่งตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ
๑๖:๐๐ แพรวพามู ครั้งที่ 3 ตอน มูสละโสด กับ อาจารย์ไวท์ หมอดูโอปป้า
๑๕:๔๑ กทม. เข้มเฝ้าระวังสารเคมีรั่วไหล กำชับมาตรการความปลอดภัย หลังไฟไหม้คลังสินค้าแช่เย็นบางพลี
๑๕:๑๓ แสนสิริ บุกตลาดรับสร้างบ้าน เปิดตัว ต้นแบบ Crafted by Sansiri เล็งเห็นโอกาสการเติบโตจากมูลค่าตลาดกว่า 2
๑๕:๑๑ Bitkub Chain ปรับภาพลักษณ์สู่การเป็นบล็อกเชนสาธารณะระดับโลกพร้อมประกาศเปลี่ยนผ่านสู่ KUB
๑๕:๐๘ มดดำ-หนิง ปณิตา นำทีมเยี่ยมชมโรงงานผลิต Dr.master เสริมความมั่นใจผู้บริโภค การันตีคุณภาพระดับสากลจาก รีโว่เมด