นับเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดสำหรับตัวแทนทีมชาติไทย วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ นักแข่งและหัวหน้าทีม AAS Motorsport จากสังกัด ปอร์เช่ ประเทศไทย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด นักแข่งมากความสามารถที่คร่ำหวอดในวงการความเร็วมากกว่า 20 ปี พร้อมด้วยคู่หูร่วมทีม กันตธีร์ กุศิริ พารถหรูคู่ใจของทีม รถปอร์เช่ 911 GT3 R เครื่องยนต์ 6 สูบนอน ความจุ 4.0 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ รีดพละกำลัง 550 แรงม้า มาพร้อมกับรถลวดลายสะท้อนความแรงแบบไทย นำทัพเข้าแข่งขันรอบแรกโชว์ฟอร์มเดือด ออกตัวเริ่มต้นอุ่นเครื่อง Race 1 ด้วยการออกสตาร์ทที่ 11 ก่อนจบการแข่งขันในอันดับที่ 12 ด้วยสภาพอากาศไม่เป็นใจ แต่ตัวแทนทีมชาติไทยสู้สุดใจแก้เกมต่อลงสนามแข่งประลองศึกรอบชิงโชว์ฟอร์มแรงออกตัวเริ่มต้นอุ่นเครื่อง Race 2 ด้วยการออกสตาร์ทที่ 12 พร้อมขับเคี่ยวกับคู่แข่งแบบฉิวเฉียดแต่ยังสามารถรักษาอันดับไว้ได้ ก่อนจบการแข่งขันเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 6
ผ่านเข้ามาถึงรอบสุดท้าย Main Race ทีม AAS Motorsport พารถหรูคู่ใจออกตัวแรง ด้วยการออกสตาร์ทที่ 6 จากการจัดลำดับคะแนนจาก 2 Race ที่ผ่านมา โดยในการแข่งขันได้ไต่อันดับขึ้นนำมาเป็นที่ 1 ในช่วงแรก แต่ด้วยสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักตลอดทางเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขัน บวกกับสภาพของสนามที่ไม่คุ้นเคย ทำให้หลุดออกจากแทร็กในโค้งที่ 4 ต้องออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดายก่อนหมดเวลาการแข่งขัน
โดย วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ นักแข่งและหัวหน้าทีม AAS Motorsport เล่าถึงความรู้สึกหลังจากพาทีมไทยแข่งรอบสุดท้ายว่า "วันนี้รู้สึกตื่นเต้นมากกับการแข่งขันที่ผ่านมา แล้วก็ต้องขอโทษคนไทยทุกคนที่ทำให้ผิดหวังครับ ด้วยสนามแข่งที่เราไม่คุ้นเคยบวกกับสภาพอากาศที่วันนี้มีฝนตกหนัก ทำให้เราต้องใช้สมาธิเนื่องจากทัศนวิสัยในการขับค่อนข้างลำบาก แม้เราจะทำการบ้านมาดีพอสมควรแต่ก็ต้องยอมรับว่าแมตช์นี้เป็นแมตช์ที่หินอยู่เหมือนกันเพราะต้องสู้กับฝนที่ตกหนัก แต่ผมก็เชื่อว่าศักยภาพของทีมไทย ยังไปได้อีกไกล ไม่แพ้ชาติใดๆ แน่นอน ขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ส่งกำลังใจมาเชียร์พวกเรานะครับ "
ด้านทีมเมทนักขับมากฝีมือ กันตธีร์ กุศิริ เล่าว่า "วันนี้ทีมเราก็ทำเต็มที่แล้วครับ ก็รู้สึกผิดหวังนิดหน่อย แต่สภาพสนามก็ค่อนข้างยากจริงๆ แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ ก็ขอขอบคุณคนไทยทุกคนที่ส่งกำลังใจมาเชียร์พวกเรานะครับ"