กลุ่มเหล็กเชียร์รัฐใช้มาตรการทันเกม เข้มสู้สินค้าเหล็กทุ่มตลาด-หนุนใช้สินค้าผลิตในประเทศ

อังคาร ๐๕ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๕:๓๑
สงครามการค้าป่วนตลาดเหล็กโลกรุนแรง กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กสนับสนุนภาครัฐเร่งใช้มาตรการทางการค้า ควบคู่ Thai First ป้องกันประเทศไทยเป็นหลุมดำโดนทุ่มสินค้าเหล็กจากต่างชาติ

สงครามการค้าโลกที่ยังลุกลามขยายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกีดกันการค้าสินค้าเหล็กในประเทศต่างๆ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลงมาก โดยล่าสุดสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลังรายงานว่าเศรษฐกิจไทยปี 2562 จะมีอัตราเติบโตชะลอตัวเพียง 2.8% (ปี 2561 GDP เติบโต 4.1%) ส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กของประเทศไทย ปี 2562 มีราว 19.1 ล้านตัน ในขณะที่ผู้ผลิตเหล็กจากต่างประเทศซึ่งเจอปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศของตน และไม่สามารถส่งออกสินค้าเหล็กไปยังประเทศอื่นๆ ที่ใช้มาตรการกีดกันต่างๆ อย่างเข้มข้น ต่างพากันเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดสินค้าเหล็กในประเทศไทย โดยใน 9 เดือนแรกของปี 2562 สินค้าเหล็กนำเข้ามีส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทยเพิ่มขึ้น มากถึง 67%

นายวิกรม วัชระคุปต์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากความต้องการใช้เหล็กของโลกในปี 2561 ที่มีอัตราเติบโต 4.6% แต่ในปี 2562 จะเติบโต 3.9% และในปี 2563 อัตราการเติบโตจะเหลือเพียง 1.7% เท่านั้น โดยสวนทางกับการเพิ่มกำลังการผลิตเหล็กของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน อินเดีย อิหร่าน จน Organisation for Economic Co-operation and Development (OECD) ได้แสดงความกังวลว่าภาวะ Over Supply ของสินค้าเหล็กจะกลับเข้าสู่ภาวะวิกฤตสูงอีกแล้ว เพราะกำลังการผลิตเหล็กทั่วโลกมีมากเกินความต้องการใช้เหล็กถึง 440 ล้านตันต่อปี

สำหรับการแก้ไขปัญหาสินค้าเหล็กทุ่มตลาดจากต่างประเทศนั้น กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กมั่นใจในการทำงานแบบ "ทำได้ไว ทำได้จริง" ของท่านรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ซึ่งได้รับทราบปัญหาวิกฤติอุตสาหกรรมเหล็กไทยแล้ว โดยขอให้พิจารณา (1) เร่งรัดมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping) ที่รอการพิจารณาของคณะกรรมการ ให้มีความรวดเร็วและทันการณ์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินค้าท่อเหล็กจากเวียดนาม และเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนจากจีน ซึ่งเพียง 9 เดือนแรกของปี 2562 มีปริมาณนำเข้าสินค้าดังกล่าวรวมกันมากกว่าล้านตัน จนส่งกระทบต่อโรงงานผลิตท่อ และโรงงานผลิตเหล็กเคลือบสังกะสีในประเทศไทย ต้องลดการผลิตหรือทะยอยปิดงานไปบ้างแล้ว (2) บังคับใช้ พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ ฉบับปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องตอบโต้การหลบเลี่ยง (Anti Circumvention) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 นี้ อย่างเข้มงวดจริงจัง เพื่อเอาผิดผู้หลบเลี่ยงอากรทุ่มตลาด แม้จะมีผู้นำเข้าบางรายที่มีพฤติกรรมหลบเลี่ยงอากรทุ่มตลาด ร้องขอให้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายนี้ออกไปเพราะเกรงกลัวความผิด ในขณะที่ผู้นำเข้าส่วนใหญ่ซึ่งดำเนินธุรกิจโดยสุจริต ไม่ได้ตื่นตระหนกกับกฎหมายดังกล่าวแต่อย่างใด

นายวิกรมกล่าวว่า "อย่างไรก็ตาม การใช้เพียงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด ไม่สามารถแก้ปัญหาความเสียหายทางเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างระดับที่กว้างขวางต่ออุตสาหกรรมเหล็กของประเทศไทย อันเนื่องมาจากกำลังการผลิตเหล็กของโลกที่มีมากเกินความต้องการ และการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากต่างประเทศ จนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศไทยมีการใช้กำลังการผลิตถดถอย เหลือเพียง 33% เท่านั้น ดังนั้นการแก้ไขปัญหาที่สำคัญอีกแนวทาง คือ การสนับสนุนการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ที่จะมีการใช้งบประมาณหลายล้านล้านบาทในระยะเวลาข้างหน้านี้"

กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก (1) สนับสนุนนโยบาย Thai First ที่รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ประกาศและให้กระทรวงคมนาคมเร่งทำ workshop กับกลุ่ม 7 สมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย ศึกษาแนวทางนำร่องเพื่อส่งเสริมการใช้สินค้าเหล็กที่ผลิตในประเทศ (2) ขอให้หน่วยงานรัฐอื่นๆ โดยเฉพาะกรมบัญชีกลาง ภายใต้กระทรวงการคลังที่เป็นหน่วยงานดูแลกฎระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พิจารณากำหนดนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรม หรือผู้ประกอบการในประเทศ เช่น เดียวกับประเทศอื่นๆทั่วโลกดังเช่น สหรัฐอเมริกา จีน และอินเดีย มีการที่มีการกำหนดนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม หรือแม้แต่มาเลเซียที่มีการใช้โปรแกรมการจัดซื้อของรัฐเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรม Industrial Collaboration Program (ICP) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายในประเทศ และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมในประเทศ

กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก เชื่อว่าหากภาครัฐดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างมีบูรณาการ นอกจากจะช่วยรักษาพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กอันเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานของประเทศที่ได้มีการลงทุนไปหลายแสนล้านบาท และมีการจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อมนับแสนรายได้แล้ว จะมีส่วนช่วยภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวอย่างชัดเจน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ