เจียไต๋ ลงนามความร่วมมือกับจังหวัดศรีสะเกษ ขับเคลื่อนโครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัยอย่างยั่งยืน

ศุกร์ ๐๘ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๗:๐๖
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และนายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัย โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมให้เกียรติเป็นสักขีพยาน ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอุ่มแสง จังหวัดศรีสะเกษ

บันทึกข้อตกลงฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงการผนึกความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชน ตลอดจนเกษตรกรที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนด้านนวัตกรรมเกษตรผ่านโครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัย ในจังหวัดศรีสะเกษ

นายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด กล่าวถึงการลงนามความร่วมมือโครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัยครั้งนี้ว่า "พริกถือเป็นหนึ่งในพืชผักที่อยู่คู่ครัวคนไทยมาช้านาน เพราะคนไทยนิยมบริโภคอาหารรสจัด เราทานพริกกันมาก แต่พริกก็เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มีสารเคมีตกค้างมากที่สุด นอกจากนี้ ปัจจุบันการปลูกพริกของไทยยังเป็นการเพาะปลูกตามฤดูกาล ทำให้ได้ผลผลิตไม่ต่อเนื่อง จึงเกิดความขาดแคลนพริกในบางช่วง จนต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น จีน พม่า เวียดนาม ซึ่งมีราคาถูกกว่า ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคที่อาจจะเจอพริกที่ไม่ปลอดภัยแล้ว การนำเข้าพริกยังส่งผลกระทบกับอาชีพเกษตรกรของไทยเป็นอย่างมาก เพราะหากมีการนำเข้าพริกอย่างต่อเนื่องแล้ว เป็นไปได้ว่า สักวันหนึ่งเกษตรกรไทยจำนวนหลายแสนรายอาจจะสูญเสียอาชีพนี้ไปก็ได้ ดังนั้น เจียไต๋จึงต้องการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับวงการเกษตรกรรมของไทยให้มีศักยภาพทัดเทียมนานาชาติ สามารถปลูกพริกที่มีความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องได้ในทุกฤดูกาล และมีปริมาณเพียงพอกับการบริโภคของคนไทย ในราคาที่สมเหตุสมผล ลดการนำเข้าพริกและทำให้เกษตรกรมีความเชี่ยวชาญในการปลูกพริก จนสามารถแข่งขันด้านการตลาดกับประเทศอื่นๆได้ต่อไป"

เนื่องจากเล็งเห็นถึงศักยภาพหลายประการของจังหวัดศรีสะเกษในการมุ่งสู่การเป็น "ดินแดนเกษตรปลอดภัย" และความต้องการในการผลักดันให้พริกเป็นหนึ่งในพืชประจำจังหวัด ผ่านโครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อยกระดับเศรษฐกิจภายในจังหวัดให้มีความเข้มแข็ง อีกทั้งยังช่วยอนุรักษ์อาชีพดั้งเดิมในการปลูกพริกของจังหวัดศรีสะเกษให้ยังคงอยู่ เจียไต๋จึงได้ริเริ่มโครงการพริกปลอดภัยขึ้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรต่างๆ เช่น การวางระบบให้น้ำ การวิเคราะห์ข้อมูลสภาพดินและสภาพอากาศ ตลอดจนการส่งนวัตกรผู้มีความเชี่ยวชาญการเกษตร หรือ Chia Tai Agronomist ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับเกษตรกร เพื่อผลักดันให้เกิดการทำเกษตรกรรมในรูปแบบเกษตรแปลงใหญ่ ซึ่งจะก่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลห่วงโซ่อุปทาน ที่สามารถนำมาต่อยอดในการกำหนดนโยบายการตลาดได้อย่างครบวงจร และยังเป็นการส่งเสริมการปลูกพริกให้ได้ทั้งคุณภาพและปริมาณ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถควบคุมต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ให้มากขึ้น ในขณะเดียวกัน ยังผลักดันให้เกิดผลผลิตที่ได้รับการรับรองตามแนวทางการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถมั่นใจในการบริโภคพริกที่ปลอดภัย ในราคาสมเหตุสมผล ซึ่งในอนาคตผู้บริโภคจะสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปถึงแหล่งที่มาของผลิตผลได้อีกด้วย

นายมนัส เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจียไต๋ จำกัด ปิดท้ายว่า "กว่า 98 ปีของการดำเนินธุรกิจ เจียไต๋ยึดมั่นในคุณธรรมและความซื่อสัตย์ ซึ่งเราถือเป็นรากแก้วที่สำคัญของบริษัท ธุรกิจของเราเริ่มตั้งแต่การส่งมอบเมล็ดพันธุ์คุณภาพ ปุ๋ย ผลิตภัณท์อารักขาพืช เทคโนโลยีเพื่อการเพาะปลูก ไปจนถึงการส่งมอบผลผลิตสดใหม่ที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ เราจึงตระหนักดีว่าธุรกิจของเรามีความเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ที่เจียไต๋ เรายึดมั่นในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงประโยชน์ของทุกภาคส่วน ดังนั้น การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการเกษตรแปลงใหญ่เพื่อการปลูกพริกปลอดภัย ร่วมกับจังหวัดศรีสะเกษในครั้งนี้ จึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเจียไต๋ในการก้าวเข้าสู่ปีที่ 100 อย่างมั่นคง เพื่อสามารถบรรลุพันธกิจในการนำนวัตกรรมการเกษตรมาช่วยยกระดับวงการเกษตรกรรมของไทยให้ทัดเทียมนานาประเทศ พร้อมส่งเสริมให้คนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง"

เกี่ยวกับกลุ่มบริษัทเจียไต๋

บริษัท เจียไต๋ จำกัด ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่พ.ศ. 2464 ปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทเกษตรกรรมชั้นนำของเอเชีย ธุรกิจของเจียไต๋ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปสู่ปลายน้ำ โดยมีผลิตภัณฑ์และบริการที่เริ่มต้นตั้งแต่เมล็ดพันธุ์คุณภาพ ปุ๋ย ผลิตภัณท์อารักขาพืช เทคโนโลยีเพื่อการเพาะปลูก ไปจนถึงการส่งมอบผลผลิตที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ

ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง เจียไต๋เป็นหนึ่งในบริษัทรายแรกของไทยที่คิดค้นวิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์ไฮบริด และยังมีศักยภาพในการค้นคว้าวิจัยพัฒนาสายพันธุ์ต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกร และมอบความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยมีสำนักวิจัยและพัฒนาธุรกิจเมล็ดพันธุ์ 3 แห่ง มีสถานีวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืช 3 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดสุพรรณบุรี และมีบริษัทสาขาอีก 6 แห่งกระจายอยูทั่วภูมิภาคเอเชีย โดยมีพนักงานกว่า 1,300 คน

ที่เจียไต๋ เรายึดมั่นในการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของคุณธรรมและจริยธรรม มีความเป็นมืออาชีพ และมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อส่งมอบนวัตกรรมการเกษตรเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนของคนทั่วทั้งภูมิภาค

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๕๕ FTI รับ 2 รางวัล จากกระทรวงแรงงานและกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ประจำปี 2567
๑๔:๕๕ OKMD ร่วมกับ CMDF จัดประกวดประยุกต์ใช้ความรู้ด้านการเงินการลงทุน หนุนไอเดียเด็กมัธยม ต่อยอดทำธุรกิจเพื่อสังคม
๑๔:๓๐ แอลจีเผยเทรนด์ทำงานปี 2025 พร้อมเทคนิคใช้โน๊ตบุ๊กแบบสมาร์ทเวิร์กเกอร์
๑๔:๓๓ ทีเอ็มบีธนชาต สำรองธนบัตร 13,000 ล้านบาท ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568
๑๔:๒๒ เจียไต๋แมน เมื่อรุ่นเดอะผนึกกำลังกับรุ่นใหม่ เติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง
๑๔:๒๙ สุขภาพดีแบบไม่ต้องเดี๋ยว! รพ.วิมุต ชวนตรวจสุขภาพ - ปรับพฤติกรรมสไตล์คนไม่มีเวลาสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาวรับปีใหม่
๑๔:๕๐ HBA ส่องภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านปี 68 เผชิญความท้าทายใหม่ เร่งงัดกลยุทธ์ฝ่าแข่งขันสูง รุกเจาะตลาดใหม่ 'รอจังหวะฟื้น'
๑๔:๕๒ ดิเอมเมอรัลด์ช่วยสนับสนุนงานกาชาด
๑๔:๓๑ เอพี ไทยแลนด์ รับ 3 รางวัลจาก Meta ตอกย้ำจุดยืน แบรนด์อสังหาฯ ที่ขับเคลื่อนด้วยความคิดสร้างสรรค์และดาต้า
๑๔:๓๕ มาคาเลียส แหล่งรวม อี-วอเชอร์ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว อันดับ 1 ของประเทศไทย เผย 10 เทรนด์ท่องเที่ยวไทยปี