นายศุภชัย ยิ้มสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศ และธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 5/2562 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศออสเตรเลีย จำนวน 3 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 172.80 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการ AU1 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 30 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่รัฐเซาท์ออสเตรเลีย โครงการ AU2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 71.40 เมกะวัตต์ และโครงการ AU3 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 71.40 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่รัฐวิกตอเรีย มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 236.79 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 4,913.51 ล้านบาท โดยกระแสไฟฟ้า จำหน่ายให้ตลาดซื้อขายไฟฟ้าของเครือรัฐออสเตรเลีย (National Energy Market)
สำหรับการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศออสเตรเลีย ทั้ง 3 โครงการจะรวมถึง การลงทุนในที่ดิน สัญญาซื้อขายไฟฟ้า ใบอนุญาตต่างๆ ที่จำเป็น และเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายไฟฟ้า แผงเซลล์แสงอาทิตย์ ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ และการก่อสร้างที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้สามารถพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ตามที่กำหนดไว้ โดยคาดว่าจะดำเนินการตามแผนการลงทุนได้ทันทีหลังจากนี้ ส่วนเรื่องเงินที่ใช้ในการลงทุน จะใช้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเป็นหลัก โดยมูลค่าเงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 4,913.51 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินสนับสนุนจากสถาบันการเงิน ประมาณร้อยละ 70 ของมูลค่าเงินลงทุนรวม หรือ คิดเป็นมูลค่า 3,439.46 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมาจากเงินส่วนทุนประมาณร้อยละ 30 ของเงินลงทุนรวม หรือ คิดเป็นมูลค่า 1,474.05 ล้านบาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาอนุมัติเงินสนับสนุนจากสถาบันการเงิน แต่อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ได้รับเงินสนับสนุนจากสถาบันการเงินไม่เพียงพอ บริษัทฯ จะใช้เงินทุนหมุนเวียน เป็นแหล่งเงินทุนในการลงทุน ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหลักแต่อย่างใด
ทั้งนี้ บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) มีแผนขยายธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ออกสู่ตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากประเทศไทยและญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน โดยประเทศที่เป็นตลาดใหม่คือ ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตลาดพลังงานทดแทนประเภทแสงอาทิตย์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลก จากการสนับสนุนของรัฐบาลออสเตรเลียที่ต้องการปรับเปลี่ยนแหล่งพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลมาเป็นพลังงานหมุนเวียนเพื่อลดผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน ปัจจุบัน CHOW มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี มีความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ จึงเป็นโอกาสดีที่จะขยายตลาดพลังงานออกสู่ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตสูงมาก
"ทางคณะกรรมการและทีมผู้บริหารได้ศึกษาธุรกิจพลังงานทดแทนในออสเตรเลียมานานกว่า 2 ปีแล้ว เห็นพัฒนาการของตลาดมาอย่างต่อเนื่อง และเห็นว่าปัจจุบัน CHOW มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้เป็นอย่างดีจากการขยายธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น จึงพร้อมจะเปิดตลาดใหม่ในออสเตรเลียอย่างเต็มตัว และมั่นใจว่าความเชี่ยวชาญในธุรกิจ และทีมงานมืออาชีพจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากตลาดนี้ได้" นายศุภชัย กล่าว