นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือน 62 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,312.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.89% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 637.31 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายอยู่ที่ 21,485.24 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 4.32% จากงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีจำนวน 20,595.71 ล้านบาท
สำหรับในงวดไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 589.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.08% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 525.93 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายอยู่ที่ 7,491.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.26% จากงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีจำนวน 7,398.42 ล้านบาท
ความสามารถในการทำกำไรยังอยู่ในระดับที่ดี เนื่องจากปริมาณขายสุกร ได้ผลตอบรับที่ดีจากความต้องการในประเทศ ทดแทน supply ในตลาดที่ลดลงบางส่วนจากรายย่อย โดยราคาขายไก่และราคาสุกรในประเทศยังคงทรงตัวได้ในระดับที่ดี ประกอบกับต้นทุนการผลิตที่ลดลง จากการบริหารจัดการต้นทุนอาหารสัตว์ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดี
"ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้ มีทิศทางที่ดีอย่างเห็นได้ชัดเจนเมื่อเทียบจากปีก่อน โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยังสามารถรักษาการเติบโตได้ดี โดยไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ จะคงเน้นนโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไรและลดต้นการผลิต เพื่อให้การเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้ บริษัทได้รับการรับรองขึ้นทะเบียนให้ส่งออกผลิตภัณฑ์และเนื้อไก่แช่แข็งไปยังประเทศจีนได้เพิ่มขึ้นอีก 1 โรงงานแล้วในช่วงปลายเดือนตุลาคม โดยเริ่มส่งออกตั้งแต่ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัท เนื่องจากประเทศจีนมีความต้องการสินค้าไก่จากไทย และราคาส่งออกไปยังประเทศจีนจะสูงกว่าการจำหน่ายในประเทศค่อนข้างมาก ทำให้แนวโน้มการส่งออกไปที่จีนทั้งด้านปริมาณและราคาสดใสต่อเนื่อง ในส่วนของราคาสุกรที่ประเทศเวียดนามก็ได้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างสูงจากช่วงก่อนหน้านี้" นายวินัยกล่าวในที่สุด
อนึ่ง ที่ผ่านมา บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จากัด (มหาชน) หรือ TFG ได้ตั้งบริษัทย่อย ชื่อว่า บริษัท ทีเอฟ เทค จำกัด เพื่อประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ดำเนินงานโครงสร้างด้านวิศวกรรม และเทคโนโลยี โดยมีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทถือหุ้น 76% ของทุนจดทะเบียน และบุคคลธรรมดา 5 ราย ถือหุ้น รวมกัน 24% ของทุนจดทะเบียน โดยมีวัตถุประสงค์ของการตั้งบริษัทดังกล่าว เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้าของกลุ่มบริษัทในเครือ