นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด ภายใต้แบรนด์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจปี 2562 ที่มีการขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ อีกทั้งในช่วงครึ่งปีหลังประเทศไทยยังประสบกับปัญหาภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องน้ำท่วม ส่งผลกระทบให้ธุรกิจรับสร้างบ้านชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด และล่าสุดภาครัฐออกมาตรการลดภาระเพื่อที่อยู่อาศัย ทั้งในส่วนลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอน เหลือ 0.01% จากเดิมที่ 2% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ เหลือ 0.01% จากเดิม 1% สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อหน่วย แต่ก็เชื่อว่ามาตรการดังกล่าวอาจจะยังไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากนัก เพราะเป็นมาตรการในระยะสั้น ๆ เท่านั้น
"หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 1.50% เป็น 1.25% ต่อปี แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ซึ่งมองว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ต้องการจะกระตุ้นให้มีการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคและประชาชน หวังช่วยให้ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศในช่วงท้ายปี 2562 กลับมาขยายตัวอีกครั้ง"
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้าน แม้จะต้องเผชิญกับปัจจัยลบหลายด้าน แต่ก็ยังเชื่อว่ากำลังซื้อผู้บริโภคยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพและมีความน่าเชื่อถือ สามารถให้บริการได้ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งในต่างจังหวัด ซึ่งบริษัทฯ เองก็มีแผนจะเปิดสาขาในต่างจังหวัดใหม่เพิ่มอีก 1 แห่ง โดยในช่วงเดือนมกราคม 2563 ที่จะถึงนี้เตรียมเปิดศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขากาญจนบุรี เพื่อขยายการให้บริการในพื้นที่ภาคกลางฝั่งตะวันตกและรองรับกำลังซื้อผู้บริโภคจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง อาทิ สุพรรณบุรี ราชบุรี ซึ่งคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มมากขึ้นในปีหน้า สำหรับทำเลที่ตั้งศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ สาขากาญจนบุรี นั้นจะอยู่ถนนเส้นเลี่ยงเมือง แยกวังสารภี ฝั่งตรงข้ามโรบินสันสาขากาญจนบุรี โดยในส่วนของรูปแบบศูนย์รับสร้างบ้านก็ได้มีการปรับโฉมและลดขนาดสำนักงานเป็นอาคาร 1 คูหา ซึ่งนับเป็น 1 ใน 2 สาขาต้นแบบอาคาร 1 คูหา ของบริษัทฯ หลังจากประสบความ สำเร็จมาแล้วที่สาขาจังหวัดนครราชสีมา
ด้านนางสาวถิรพร สุวรรณสุต กรรมการบริหารสายงานการตลาด บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้บริหารสิทธิ์แฟรนไชส์ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดรับสร้างบ้านในปี 2562 แม้จะไม่ขยายตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และไม่ได้รับอานิสงส์มาตรการกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยจากภาครัฐ แต่ก็เชื่อว่ายังมีกำลังซื้อแฝงอยู่จำนวนมากพอ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้บริการกับบริษัทรับสร้างบ้าน และในช่วงส่งท้ายปีนี้ถือเป็นช่วงเวลาดี ๆ สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการจะสร้างบ้าน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับครอบครัว บริษัทฯ จึงได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดกับโปรโมชั่น "จัดให้แรงแซงรัฐ" ทั้งลด-ทั้งแจก-ทั้งแถม ถึง 7 ต่อ 1.) ฟรี! ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ 2.) ฟรี! ค่าประเมินราคาหลักประกันทุกวงเงินกู้ 3.) ฟรี! ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม 4.) ฟรี! ค่าจดทะเบียนจำนอง 1% ของวงเงินกู้ตามสัญญา 5.) ฟรี! Iphone 11 pro 6.) เงินจองเพียง 19,999 บาท 7.) เพิ่มวงเงิน อัพเกรดวัสดุ/ต่อเติม/เปลี่ยนแปลง สูงสุด 1,200,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองและเซ็นสัญญาปลูกสร้างบ้านกับพีดีเฮ้าส์ ทุกสาขาทั่วประเทศ โดยตั้งเป้ายอดขายกับโปรโมชั่นส่งท้ายปีไว้ที่ 300 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี พีดีเฮ้าส์ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ออกมาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ทั้งการเลือกนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้บริหารจัดการภายในองค์กร เพื่อช่วยให้การทำงานสะดวกรวดเร็วมากขึ้นแล้ว ยังมีการนำผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างใหม่ ๆ มาใช้ในการสร้างบ้าน เพื่อยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้นและแตกต่างกับผู้ประกอบการรับสร้างบ้านทั่วไป อย่างเช่น ไม้สังเคราะห์พีดีวูด สำหรับใช้เป็นตกแต่งผนังและฝ้าเพดานภายนอก ล่าสุดได้นำปูนฉาบ พีดี มอร์ต้าร์ พลัส สูตรป้องกันการแตกร้าวของผนัง 99% มาใช้สร้างบ้านทุกหลัง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าบ้านที่ก่อสร้างจะปลอดจากปัญหาผนังแตกร้าวในภายหลัง นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัว 8 แบบบ้านใหม่ ตามเทรนด์ 2020 ราคาเริ่มต้น 8-15 ล้านบาท เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีแบบบ้านสวยเลือกปลูกสร้างกับบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
พีดีเฮ้าส์ ยังคงเน้นความชัดเจน ภายใต้จุดยืน "สร้างบ้านอนุรักษ์พลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม" และชูจุดแข็งเรื่องความเชี่ยวชาญการออกแบบและก่อสร้างบ้านระบบโครงสร้างสำเร็จรูป พรีแฟบบรีเคชั่นแอนมัลติจ๊อยล็อคซีสเต็มท์ (Prefabrication & Multi-joint Lock System) สามารถก่อสร้างได้รวดเร็วและมีคุณภาพ พร้อมมีแบบบ้านให้เลือกปลูกสร้างกว่า 200 แบบ ตามงบประมาณและรสนิยม ตลอดจนการให้บริการหลังการขาย การรับประกันโครงสร้างหลักยาวนานถึง 20 ปี พร้อมให้บริการสร้างบ้านภายใต้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ