พลเอก สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช. กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากคณะกรรมการบริหารกองทุน เห็นควรให้มีการทบทวนแผนแม่บทและยุทธศาสตร์การจัดสรรเงินจากกองทุนให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงตาม นโยบายการพัฒนาประเทศ บริบทของกฎหมาย และสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรม ดังนั้น กทปส. จัดกิจกรรมสัมมนากลุ่มย่อยเพื่อระดมความคิดเห็นในการจัดทำร่างแผนแม่บทกองทุน เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการจัดสรรเงินกองทุน และเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถรับทราบถึงสภาพปัญหา พร้อมทั้งรับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดสรรเงินกองทุนในอนาคตต่อไป
"ในการรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้ง 3 ภูมิภาคดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างดีและถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดสรรเงินจากกองทุน เพื่อให้ กทปส. ได้นำไปวิเคราะห์และใช้เป็นแนวทางในการจัดทำ (ร่าง) แผนแม่บทกองทุนวิจัยและพัฒนาฯ ระยะ 4 ปี รวมถึงกำหนดทิศทางการจัดสรรเงินกองทุนให้เกิดประโยชน์ในทุกภาคส่วนในด้านกิจการกระจายเสียง ด้านกิจการโทรทัศน์ และด้านกิจการโทรคมนาคม ต่อไป"
นายวิโรจน์ นรารักษ์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย และแผนยุทธศาสตร์กองทุนวิจัยและพัฒนาฯ กล่าวว่า ในห้วงเวลาที่ผ่านมากองทุนฯ ได้ใช้นโยบายและแผนยุทธศาสตร์กองทุนฯ ปี 2557 ถึง 2559 และแผนยุทธศาสตร์การจัดสรรเงินรายปี เป็นกรอบแนวทางการบริหารงานกองทุนฯ โดยต่อมาในระหว่างปี 2561 ถึง 2562 ได้มีการประกาศใช้ยุทธศาสตร์และแผนแม่บทซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกับแผนแม่บทกองทุนฯ เช่น ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทกิจการโทรคมนาคม ฉบับที่ 2 แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการบริหารกองทุนจึงเห็นควรให้มีการทบทวนแผนยุทธศาสตร์ของกองทุนฯ ให้มีความทันสมัยเป็นปัจจุบัน สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรม และบริบทของกฎหมาย โดยจัดทำเป็น ร่างแผนแม่บทกองทุนฯ ระยะเวลา 4 ปี และกำหนดให้เริ่มประกาศใช้ตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นไป จนถึง ปี 2566 ดังนั้น เพื่อให้การกำหนดยุทธศาสตร์ของกองทุนเกิดประโยชน์สูงสุดต่อสาธารณะ จึงเห็นสมควรให้มีการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ในการให้ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่างแผนแม่บทกองทุนฯ และร่วมกำหนดทิศทางการจัดสรรเงินจากกองทุนให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุน
นายวิโรจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรอบการจัดสรรเงินกองทุนในปี 2563 นี้ กสทช. ได้มีมติเห็นชอบกรอบวงเงินการจัดสรรเงินจากกองทุน โดยแบ่งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนทุนประเภทที่ 1 จำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นทุนที่ให้หน่วยงานจากภายนอกยื่นข้อเสนอภายใต้กรอบโครงการหรือกิจกรรม ใน 3 วัตถุประสงค์ของกองทุน คือ วัตถุประสงค์ที่ 1 การดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการกระจายเสียง โทรทัศน์ และโทรคมนาคมอย่างทั่วถึง และบริการเพื่อสังคม วัตถุประสงค์ที่ 2 การวิจัยและพัฒนาด้านกระจายเสียง โทรทัศน์ โทรคมนาคม เทคโนโลยีการใช้คลื่นความถี่ เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง และวัตถุประสงค์ที่ 3 การพัฒนาบุคลากร และการส่งเสริมและสนับสนุนทุนประเภทที่ 2 จำนวน 670 ล้านบาท โดยคณะกรรมการบริหารกองทุนจะดำเนินการกำหนดขอบเขตของงานหรือ TOR ที่สอดคล้องตามนโยบายของกองทุน ก่อนที่จะเปิดโอกาสให้หน่วยงานภายนอกยื่นเสนอโครงการมายังกองทุน
นายนิพนธ์ จงวิชิต รักษาการแทน ผู้อำนวยการสำนักกองทุนวิจัยและพัฒนา ได้บรรยายในหัวข้อ บทบาทหน้าที่ของกองทุนรวมถึงแนวทางการจัดสรรเงินจากกองทุนประจำปี 2563 (ร่าง) แผนแม่บทกองทุนวิจัยและพัฒนาฯ ระยะ 4 ปี ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ 5 ด้าน ดังนี้
1. ยุทธศาสตร์ที่ 1 ส่งเสริมบริการด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึง
2. ยุทธศาสตร์ที่ 2 ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา
3. ยุทธศาสตร์ที่ 3 ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากร
4. ยุทธศาสตร์ที่ 4 สนับสนุน ส่งเสริม และคุ้มครองผู้บริโภค
5. ยุทธศาสตร์ที่ 5 การบริหารจัดการกองทุนให้มีประสิทธิภาพและมั่นคง
พร้อมกันนั้น บนเวทีเสวนาที่จังหวัดกรุงเทพฯ ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเสวนา ประกอบด้วย พันเอก (พิเศษ) ดร. เจียรนัย วงศ์สะอาด, นายสมชาย ศักดาเวคีอิศร อนุกรรมการกลั่นกรองโครงการและงบประมาณที่ใช้จ่ายจากเงินกองทุนฯ ได้ให้แนวทางการเขียนโครงการอย่างไรให้ได้รับทุน ซึ่งโครงการตอบโจทย์ของวัตถุประสงค์กองทุน และต้องก่อให้เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมในการพัฒนาในภาคอุตสาหกรรม ด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม รวถึงส่งผลต่อการพัฒนาประเทศในภาพรวม