เสริมศักยภาพผู้บริหารโรงพยาบาล ชูความปลอดภัยบุคลากรสาธารณสุข

พุธ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๐๑๙ ๑๑:๑๓
สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำประเทศไทย และบี. บราวน์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมจัดการอบรมเรื่อง "การเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลในด้านมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์" รวมทั้งรับทราบแผนปฏิบัติงานในการสร้างความปลอดภัยด้านการทำความสะอาดมือ ความปลอดภัยในการให้สารเคมีบำบัด และการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำอย่างปลอดภัย ณ โรงแรมรามาการ์เดน

ประเทศไทยไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบบริการสุขภาพให้มีคุณภาพ และเข้าถึงความต้องการของประชาชน แต่ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ โดยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุข เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรทางสาธารณสุข ปีพ.ศ. 2561-2564 หรือที่เรียกว่า 2P Safety ไว้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในโรงพยาบาล

นพ. กิตตินันท์ อนรรฆมณี ผู้อำนวยการ สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) หรือ สรพ. กล่าวว่า "องค์การอนามัยโลกให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก และประเทศไทยเอง นอกจากจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผู้ป่วยแล้ว เรายังคำนึงถึงความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ด้วยเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับคำกล่าวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ว่า โรงพยาบาลต้องคำนึงและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของบุคลากร และร่วมกันพัฒนาระบบป้องกันและดูแลบุคลากรให้ปลอดภัย นับเป็นช่วงเวลาประจวบเหมาะที่องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน หรือ GIZ และบริษัทบี. บราวน์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เข้ามาดำเนินโครงการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในประเทศไทย และสรพ. ได้มีส่วนร่วมในการจัดอบรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลด้านมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยเล็งเห็นว่าระบบป้องกันและดูแลความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากผู้บริหารของโรงพยาบาลไม่เห็นความสำคัญและไม่ผลักดันให้มีระเบียบ นโยบายที่จะสนับสนุนให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานของบุคลากร"

มร. เกอร์มัน มูลเลอร์ ผู้อำนวยการ โครงการฯ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) กล่าวว่า " GIZ ดำเนินงานด้านการพัฒนา ในนามของกระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMZ) ซึ่งงานพัฒนาด้านสุขภาพและสาธารณสุขเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของเรา GIZ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนามาตรฐานสาธารณสุขในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นความต้องการพื้นฐานของประชาชน และเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน และรัฐบาลไทยเองก็ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขให้มีคุณภาพเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่าการเกิดอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติงานนั้นทำให้บุคลากรทางการแพทย์ มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ การติดเชื้อ และเสียชีวิต ด้วยเหตุนี้ GIZ จึงได้ร่วมกับบริษัท บี. บราวน์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ชั้นนำจากประเทศเยอรมนี ดำเนินโครงการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในประเทศไทยขึ้น ภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน และร่วมกับ สรพ. จัดการอบรม ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่สองแล้ว โดยเปิดโอกาสให้ผู้บริหารโรงพยาบาลและบุคลากรการแพทย์จากโรงพยาบาลนำร่อง 18 แห่ง มาร่วมนำเสนอความก้าวหน้าของการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล และ GIZ มีความมุ่งมั่นที่จะนำความสำเร็จและบทเรียนที่ได้รับจากการดำเนินโครงการฯ นี้ ไปต่อยอดเพื่อพัฒนาโครงการด้านสาธารณสุขในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงต่อไป"

ด้านนายสายันห์ รอย กรรมการผู้จัดการ บริษัทบี. บราวน์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัทบี. บราวน์ เล็งเห็นว่า ความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์นั้นเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดคุณภาพของมาตรฐานสาธารณสุขของประเทศไทย ที่จะช่วยให้เกิดความยั่งยืนของการพัฒนาระบบสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ยังคงมีช่องว่างระหว่างความรู้ทางทฤษฎีและการปฏิบัติในด้านความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของบุคลากรทางการแพทย์ จากการดำเนินงานของบริษัทบี. บราวน์ มากว่า 30 ปีในประเทศไทย ภายใต้โครงการฯ เรามุ่งหวังที่จะคงความเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในประเทศไทย เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทางการแพทย์ที่ปลอดภัยแก่โรงพยาบาล อีกทั้งช่วยส่งเสริมให้มีการใช้ระบบติดตามและรายงานผลออนไลน์ หรือ e-monitoring ที่สามารถประเมินผลความปลอดภัยได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น"

ผลจากการอบรมครั้งนี้ จะนำไปสู่การวางแผนเป็นกรอบนโยบายของแต่ละโรงพยาบาล โดยบูรณาการแนวคิด 2P Safety ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ขององค์การอนามัยโลกระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งเป้าให้เกิดความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรสาธารณสุขระดับประเทศ

การอบรม จัดขึ้นภายใต้โครงการพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยในการทำงานให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ในประเทศไทย ซึ่งดำเนินการโดยหน่วยงานภาคีทางการแพทย์ ได้แก่ สรพ. คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ชมรมพยาบาลผู้ให้สารน้ำแห่งประเทศไทย และสมาคมพยาบาลโรคมะเร็งแห่งประเทศไทย โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากกระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMZ) และบริษัทบี. บราวน์ เมลชุงเกน เอจี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย