สัญญาสินเชื่อเหล่านี้ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเวียตเจ็ทกับกลุ่มธนาคารชั้นนำในภูมิภาค เพื่อสร้างความหลากหลายของการแสวงหาแหล่งเงินทุน ด้วยการเติบโตอัตราสูงของเวียตเจ็ท สัญญาการจัดหาเงินทุนเหล่านี้จะช่วยเพิ่มแหล่งเงินตราต่างประเทศทั้งในระยะกลางและระยะยาว เพื่อสนับสนุนการเพิ่มจำนวนฝูงบินสมัยใหม่ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การสร้างความเติบโตระดับสากลในระยะยาวของบริษัท
เวียตเจ็ทถือเป็นสายการบินชั้นนำของประเทศและยังขยายธุรกิจสู่ระดับสากลอย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา รายรับและผลกำไรของเวียตเจ็ทเพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ยสูงถึง 50% จากการจัดอันดับของ AirFinance Journal ปี 2019 เวียตเจ็ทได้คะแนนระดับ BBB และติดอันดับ 50 สายการบินที่มีสถานทางการเงินและการดำเนินงานเข้มแข็งที่สุดของโลก 2 ปีติดต่อกัน อีกทั้งการคำนวณส่วนต่างของรายได้ก่อนหักกำไร, ภาษี, ค่าเสื่อมราคา, การจ่ายคืนหนี้, และต้นทุนการปรับเปลี่ยนโครสร้างหรือค่าเช่า (EBITDAR) ได้รับคะแนนระดับ A โดย AirFinance Journal นอกจากนี้ เวียตเจ็ทยังติด 3 อันดับแรกของสายการบินยอดเยี่ยมระดับโลก ปัจจุบัน สายการบินมีสภาพคล่องทางการเงินที่ระดับ 1.3 อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 0.6 ซึ่งมีมูลค่าที่ 640 ล้านดอลลาร์ โดยรวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่ 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา เวียตเจ็ทยังได้รับรางวัล "สายการบินต้นทุนต่ำยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี (Asia Pacific Low Cost Airline of the Year)" จากศูนย์การบินแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หรือ ซีเอพีเอ (Center for Asia Pacific Aviation: CAPA)
ด้วยสัญญาสินเชื่อระหว่างประเทศครั้งนี้ ผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายจึงมีการพิจารณาถึงโอกาสการร่วมมือที่มากยิ่งขึ้นในการแสวงหาแหล่งเงินทุนของเวียตเจ็ทในอนาคต